ASP ฟุ้งกำไรทั้งปีโต 40% หุ้น IPO รอเทรดเพียบ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซีย พลัส โวฟันกำไรทั้งปี 40% เพราะยังมีหุ้น IPO จ่อเทรดอีกเพียบ ไม่หวั่นสงครามซีเรียเพราะไกลหัวใจ แต่เซ็งปัญหาการเมืองในประเทศฉุดเศรษฐกิจโตช้า หวั่นโรคเลื่อนทำนักลงทุนหนีไปประเทศอื่น

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้่มั่นใจว่าจะเติบโตได้ถึง 40% จากการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนที่วางแผนรองรับความเสี่ยงไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีการเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO อีกหลายราย สำหรับรายได้จากวาณิชธนกิจปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8-9% และคาดว่าครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นจากการรอขายหุ้น IPO อีกหลายบริษัทจดทะเบียน และตราสารหนี้ที่เตรียมจะออกในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีความกังวลด้านปัญหาทางการเมืองที่มีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้โครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐชะลอตัวลง หรือเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งการลงทุนในโครงการนี้ถ้าหากเกิดความล่าช้ามากจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการลงทุน และการพัฒนาเศรษฐกิจ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันอีกมาก

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยผลกระทบจากต่างประเทศ ได้แก่ วิกฤตสงครามในประเทศซีเรีย และการรอประชุมสรุปผลมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ หรือ QE โดบบริษัทฯ มองว่าตจลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นทั้งภูมิภาคได้ปรับตัวเตรียมรับสถานการณ์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นบางส่วนแล้ว ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการ QE เชื่อว่าจะมีการลดสัดส่วนลง ตามข่าวลือในการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรจาก 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน เหลือเพียง 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน แต่จะลดลงตามข่าวลือหรือเปล่านั้น ต้องรอพิจารณาติดตามการประชุมของเฟดในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งการลดปริมาณ QE จะเป็นภาพสะท้อนเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเชื่อว่าในระยะสั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินในตลาดเกิดใหม่ แต่ในระยะยาว เชื่อว่าภาคการส่งออกจะกลับมาปรับตัวดีขึ้น
 

“ปัญหาการเมืองบ้านในประเทศน่ากังวลว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะฉุดการพัฒนาของประเทศ ซึ่งการลงทุนของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหลักของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยภายนอกอื่นๆ ตอนนี้มีน้ำหนักน้อยมาก ซึ่งข่าวการสงครามเตรียมโจมตีซีเรียจากมติสภาครองเกรสของสหรัฐฯ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ปรับตัวลดลงรับสถานการณ์ไปแล้ว ส่วนเรื่อง QE แน่นอนว่าระยะสั้นกระทบบ้าง แต่มองไปข้างหน้าจะทำให้ภาคการส่งออกสดใสขึ้น”