เอเอฟพี - โฮเวิร์ด ชูลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สตาร์บัคส์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ลูกค้างดนำอาวุธเข้าร้าน ซึ่งการเปลี่ยนนโยบายนี้มีขึ้นท่ามกลาง กระแสโต้เถียงที่รุนแรงขึ้นในสังคมอมเริกัน เกี่ยวกับสิทธิในการพกอาวุธปืน
ผู้บริหารสตาร์บัคส์ ออกมายื่นข้อเรียกร้อง เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากพกปืนเข้าร้าน สตาร์บัคส์ ในช่วง 6 เดือนหลัง ซึ่งสร้างความสับสนและความตกใจให้แก่ลูกค้าและพนักงานอย่างมาก ชูลส์ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
ในจดหมายถึงลูกค้าที่เผยแพร่วานนี้ (17) ชูลส์กล่าวว่า “ร้านของเราคำนึงถึงความปลอดภัย ความสะดวกสบายของลูกค้าทุกคน แม้จะมีความกลัวเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันก็ตาม”
ก่อนหน้านี้ สตาร์บัคส์ ถือนโยบายไม่ปฎิบัติตามกฎหมายปืนท้องถิ่น มาอย่างยาวนาน รวมถึงการ “อนุญาต” ให้ผู้คนสามารถพกปืนเข้ามาในร้านได้ โดยร้านสตาร์บัคส์เกือบ 7,000 แห่งสหรัฐฯก็ปฏิบัติตามระเบียบเช่นนี้
นโยบายดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้สนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืน เนื่องจากพวกเขาพยายามโน้มน้าวให้ร้านอาหารและค้าปลีก ห้ามลูกค้านำอาวุธปืนเข้าร้าน และพยายามอย่างยิ่งที่จะให้สตาร์บัคส์ปฏิบัติตามนโยบายนี้
ชูลส์ย้ำว่า นโยบายใหม่ของสตาร์บัคส์ไม่ใช่การแบนพนักงานยังคงให้บริการลูกค้าที่พกปืน และคำขอร้องนี้ก็ไม่ได้บังคับใช้กับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีสิทธิพกพาอาวุธอยู่แล้ว
สตาร์บัคส์ขอร้องให้ลูกค้าอย่าพกอาวุธปืนเข้ามาในร้านหรือที่นั่งนอกร้าน ซึ่งเชื่อแน่ว่าคงจะสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิในการพกอาวุธปืน ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะจัดงาน “Starbuck Appriciation Day” เพื่อขอบคุณสตาร์ บัคส์ที่ยืนหยัดเพื่อสิทธิการพกปืน
กิจกรรมที่ว่านั้นยังถูกจัดขึ้นบริเวณร้านสตาร์บัคส์ ในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตติคัต ซึ่งเกิดเหตุสังหารหมู่ที่โรงเรียนประถม จนทำให้เด็ก 20 คน และครูอีก 6 คน ถูกยิงเสียชีวิตในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยสตาร์บัคส์ เองได้ทำการปิดร้านหนี ก่อนงานขอบคุณจะเริ่มขึ้น
ชูลส์กล่าวถึงงานดังกล่าวว่า สตาร์บัคส์ ไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อสิทธิในการพกอาวุธ อันที่จริง เราไม่ต้องการให้กิจกรรม เช่นนั้นเกิดขึ้นในร้านของเรา” เขากล่าวในจดหมายถึงลูกค้า
ชูลส์กล่าวว่า นโยบายทีเปลี่ยนไปไม่ได้เป็นผลมาจากที่องค์กร Newtown Action Alliance เรียกร้องให้เขา แบนลูกค้าที่พกปืนเข้าร้าน และก็ไม่ใช่เพราะเหตุการณ์กราดยิงที่ Navy Yard ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
