เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสแห่งกรีซ เผยในวันจันทร์ (16) โดยระบุว่า เศรษฐกิจของกรีซกำลังหวนกลับคืนสู่ทิศทางที่ถูกต้อง แต่อาจต้องรออีกนานกว่า 6 ปีกว่าที่เศรษฐกิจของประเทศจะกลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนที่กรีซจะประสบวิกฤต
ซามาราสกล่าวที่เวทีการประชุมด้านเศรษฐกิจในกรุงโรมของอิตาลี ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชันแนล เฮรัลด์ ทริบูน โดยยืนยันว่า แม้เศรษฐกิจกรีซยังไม่หลุดพ้นจากวิกฤต แต่ก็ได้เริ่มกลับมาสู่ทิศทางที่ถูกต้องแล้ว จากการที่กรีซบังคับใช้มาตรการปฏิรูปอย่างขนานใหญ่ตามเงื่อนไขของบรรดาเจ้าหนี้ ทั้ง สหภาพยุโรป (อียู), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แม้จะมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ต้องรับมือและแก้ไขให้ลุล่วง
ผู้นำรัฐบาลกรีซ วัย 62 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ระบุว่า อาจต้องใช้ระยะเวลาอีกนานกว่า 6 ปีกว่าที่เศรษฐกิจของกรีซจะกลับไปสู่การเติบโตในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตหนี้สิน
อย่างไรก็ดี ซามาราสย้ำว่าการบังคับใช้แต่มาตรการ “รัดเข็มขัด” เพียงอย่างเดียวถือเป็น “ความผิดพลาดที่เลวร้าย” และไม่เพียงพอที่จะนำเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนสู่ความมีเสถียรภาพได้ แต่จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องมีการบังคับใช้มาตรการที่หนุน “การเติบโต” ทางเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย
ท่าทีล่าสุดของซามาราสมีขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะต้องเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียู เกี่ยวกับการประเมินผลทางเศรษฐกิจรอบใหม่ของกรีซที่ทำโดยอียู ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี
ทั้งนี้ กรีซได้รับความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟไปแล้วถึง 2 ครั้ง รวมเป็นวงเงินกว่า 240,000 ล้านยูโร (ราว 10.2 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา แต่มีการคาดการณ์อย่างแพร่หลายจากบรรดานักวิเคราะห์ว่า กรีซอาจจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลืออีกเป็นรอบที่ 3 ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านยูโร (ราว 424,350 ล้านบาท)