เอเจนซีส์ - จากการเปิดเผยล่าสุดในวันเสาร์ (7) ว่า รัฐบาลอังกฤษของเดวิด คาเมรอน ได้ยืนยันว่า มีบริษัทของอังกฤษ 2 แห่งขายสารเคมีให้กับซีเรียในช่วงปี 2004-2010 อ้างจากเมลออนไลน์ สื่ออังกฤษ
ในคืนวันเสาร์ (7) เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอังกฤษยอมรับว่า อังกฤษได้ส่งออกสารเคมีไปให้ซีเรีย ซึ่งอยู่ในช่วงที่สงสัยกันว่าประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ได้สะสมสารตั้งต้น หรือโซเดียมฟลูออไรด์ให้กับซีเรียนี้เพื่อผลิตอาวุธเคมี โดยที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมธุรกิจ การคิดค้นและทักษะ หรือ BIS ของรัฐบาลอังกฤษ ได้ออกใบอนุญาตการส่งออกจำนวน 5 ใบ ให้กับบริษัทสัญชาติอังกฤษ 2 แห่งเพื่อขายโซเดียมฟลูออไรด์ให้กับซีเรีย
“ก่อนหน้านั้น เราคิดว่าถึงแม้จะมีการออกใบอนุญาตการส่งออก แต่ไม่มีการส่งผลิตภัณฑ์เคมีจากอังกฤษออกไปซีเรียจริงๆ ในตอนนี้เรารู้แล้วว่า ในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยาวนานกว่า 18 เดือนนั้น มีบริษัทอังกฤษอยู่เบื้องหลังที่มีรัฐบาลของอังกฤษให้การสนับสนุนอีกทีหนึ่งในการส่งออกสารเคมีอันตรายเหล่านั้น” เผยจากโทมัส ดอเชอร์ตี สมาชิกรัฐสภาอังกฤษและสมาชิกกรรมาธิการการควบคุมการส่งออกอาวุธและผลิตภัณควบคุมของรัฐสภาอังกฤษ
ดอเชอร์ตียังเผยต่อไปว่า “ในขณะที่ใบอนุญาตการส่งออกล่าสุดนั้นได้รับการอนุมัติในเดือนพฤษภาคม ปี 2010 นั้น บริษัทอังกฤษที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกสารเคมีเพื่อเป็นพื้นฐานการผลิตของโรงงานสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน ที่ทางโรงงานนั้นต้องใช้เวลาถึง 4-5 เดือน ก่อนที่ออเดอร์พวกนี้ถึงจะส่งออกไปจริงๆ ดังนั้นเราได้เช็กไปที่ออเดอร์ในปลายปี 2010 ที่บริษัทอังกฤษได้ส่งออกโซเดียมฟลูออไรด์ไปที่ซีเรีย เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลอังกฤษมีคำถามที่ต้องการคำตอบจากสำนักงาน BIS อย่างมาก”
และในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2012 ทาง BIS ได้ออกใบอนุญาตอีกใบให้กับบริษัทในประเทศเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์เคมีให้กับซีเรียที่ถึงแม้จะจ่าหน้าส่งออกเพื่อการผลิต “ของใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ในช่วงปี 2004 ถึง ปี 2010 ในขณะที่ก่อนหน้านั้นทางการอังกฤษได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยส่งผลิตภัณฑ์เคมีให้กับซีเรียแต่อย่างใด ซึ่งถึงแม้ใบอนุญาตการส่งออกผลิตภัณฑ์เคมีออกในต้นปี 2012 แต่จากเจ้าหน้าที่ BIS พบว่าไม่มีการขายสารเคมีให้กับซีเรีย และในอีก 6 เดือนให้หลังทางสหภาพยุโรปได้ห้ามประเทศสมาชิกไม่ให้ขายผลิตภัณฑ์เคมีให้กับซีเรีย
จากรายงานของสื่ออังกฤษ เมลออนไลน์ ในวันอาทิตย์ (8) ที่ผ่านมา โฆษกหญิงของ BIS ได้กล่าวว่า “ไม่มีหลักฐานว่าผลิตภัณฑ์เคมีที่ขายให้ซีเรียนั้นถูกใช้เพื่อผลิตอาวุธเคมี” แต่เชื่อว่ามันได้ถูกใช้เพื่อการผลิตของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ยาสีฟัน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มีความวิตกเพิ่มมากขึ้นว่าสารเคมีที่ทางอังกฤษได้ขายให้จนถึงปี 2010 นั้น ถูกสะสมโดยประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด และในที่สุดมันจะถูกผลิตเป็นอาวุธเคมีเพื่อใช้ในสงครามกลางเมืองซีเรียเข่นฆ่าประชาชนของเขาเอง
อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงาน BIS ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขที่แน่นอนว่าทางอังกฤษได้ส่งออกจำนวนของโซเดียมฟลูออไรด์และโปแตสเซียมคลอไรด์ไปที่ซีเรียเท่าไหร่ และไม่สามารถให้ชื่อบริษัทอังกฤษทั้งสองแห่งได้ด้วยเหตุผลข้อตกลงทางการค้า แต่เผยว่าคู่ค้าที่อยู่ในซีเรียเป็นบริษัทเอกชน 2 แห่ง
แก๊สซารีน ซึ่งทางรัฐบาลของชาติตะวันตกต่างเชื่อว่าถูกใช้ในสงครามกลางเมืองซีเรียในวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา และได้คร่าชีวิตพลเมืองซีเรียไปกว่า 1,400 คน ที่รวมถึงเด็กอีกหลายร้อยคน แต่ทว่ารัฐบาลซีเรียได้กล่าวโทษฝ่ายต่อต้านอัสซาด หาว่าใช้อาวุธเคมีในการตอบโต้รัฐบาลซีเรีย
“มันเป็นเรื่องที่น่าขัดเคืองใจมากที่รับรู้ว่ารัฐบาลอังกฤษได้ออกใบอนุญาตการส่งออกโซเดียมฟลูออไรด์ให้กับซีเรียในช่วงระยะเวลาที่เชื่อกันว่ารัฐบาลของอัสซาดได้สะสมสารเคมีเหล่านี้” ศาสตราจารย์ แอลัสแทร์ เฮย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสารพิษเผยกับเมลออนไลน์ในวันอาทิตย์ (8)
มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ BIS ที่เข้าใจว่าโซเดียมฟลูออไรด์ที่ใช้นับครั้งไม่ถ้วนในการผลิตยาสีฟัน แต่ทว่าทางหน่วยงานลืมไปว่าสารเคมีตัวนี้เป็นสารเคมีหลักในการผลิตแก๊สซารีน ซึ่งเป็นอาวุธเคมี เอาอย่างง่ายๆ เลย คุณต้องการฟลูออไรด์เพื่อการผลิตแก๊สซารีน” เฮย์ เผยทิ้งท้าย