เอเจนซีส์ - “ปูติน” เสียงอ่อนก่อนรับบทเจ้าภาพประชุมซัมมิตกลุ่มจี20 ระบุรัสเซียจะดำเนินการ “อย่างเฉียบขาด” หากตะวันตกมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า รัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมีโจมตีปลายเดือนที่แล้ว แต่ไม่วายดักคอว่า ปฏิบัติการทางทหารต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีฯ ของยูเอ็นที่ตนมีสิทธิ์ยับยั้ง ทางด้าน “โอบามา” กล่อมพวกผู้นำรัฐสภาอเมริกันสำเร็จ คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาเตรียมโหวตร่างมติอนุมัติโจมตีซีเรียโดยใช้เวลาไม่เกิน 90 วันแต่มีข้อแม้ห้ามนำทหารบุกภาคพื้นดิน
ระหว่างการให้สัมภาษณ์สถานีทีวี แชนเนลวัน เมื่อวันพุธ (4 ก.ย.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งดูเหมือนต้องการแสดงความพร้อมในการมีส่วนร่วมกับกิจการโลกก่อนที่แดนหมีขาวจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก (จี20) ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วันพฤหัสบดี-ศุกร์นี้ (5-6 ก.ย.) กล่าวว่ามอสโกอาจเห็นด้วยกับปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ หากมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีเมื่อวันที่ 21 เดือนที่แล้ว โดยหลักฐานนั้นต้องไม่อิงกับข่าวลือ หรือข้อมูลจากการดักฟัง
อย่างไรก็ตาม ผู้นำวังเครมลินสำทับว่า การโจมตีระบอบปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดโดยไม่ได้รับอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวในทำนองเดียวกันว่า การใช้กำลังทหารจะถูกกฎหมายต่อเมื่อเป็นการป้องกันตัวเองหรือได้รับอนุมัติจากคณะมนตรีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี บันเสริมว่า หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของยูเอ็นยืนยันว่า มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริง คณะมนตรีที่เจอทางตันกรณีซีเรียมา 2 ปีครึ่ง ก็ควรต้องละทิ้งความแตกแยกและดำเนินการอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นับแต่ที่การสู้รบขัดแย้งในซีเรียระเบิดขึ้น อเมริกาตำหนิรัสเซียมาตลอดที่ให้การสนับสนุนอัสซาด รวมทั้งใช้สิทธิ์ยับยั้งมติของคณะมนตรีทั้งในการประณามอัสซาดและในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย
ความสัมพันธ์ระหว่างเครมลินและทำเนียบขาวขณะนี้ ถือว่าสั่นคลอนที่สุดนับแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ดังจะเห็นได้จากที่ปูตินกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่มีนัดหมายพบปะประชุมข้างเคียงระหว่างซัมมิตจี20 แม้ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ผู้นำทั้งสองน่าจะมีโอกาสเสวนากันเล็กๆ น้อยๆ ในการประชุมวาระต่างๆ ในจี20 ก็ตาม
อย่างไรก็ดี โอบามามีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำฝรั่งเศสและจีนในงานเดียวกันนี้
ขณะเดียวกัน นับจากที่สภาอังกฤษลงมติคว่ำแผนการโจมตีซีเรีย วอชิงตันกลับได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันขึ้นจากปารีสที่นอกจากจะเห็นด้วยกับการสั่งสอนอัสซาดแล้ว ยังเรียกร้องให้สมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการรับมือวิกฤตซีเรีย
แม้ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ สามารถสั่งโจมตีซีเรียโดยไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา แต่ผลสำรวจความคิดเห็นที่ออกมาในวันอังคาร (3) พบว่า ชาวฝรั่งเศสเกือบ 3 ใน 4 ต้องการให้สภาโหวตแผนการนี้
กระนั้น นายกรัฐมนตรี ฌอง-มาร์ก เอโร กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาฝรั่งเศสในเรื่องซีเรียในวันพุธจะไม่มีการลงมติ พร้อมยืนยันว่า ดามัสกัสอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีอย่างไม่ต้องสงสัย
ในกรุงวอชิงตัน ก่อนที่โอบามาจะออกเดินทางในวันพุธ เพื่อเยือนสวีเดนแล้วต่อไปร่วมการประชุมซัมมิตจี20 ตัวเขาพร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขา ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวพวกสมาชิกรัฐสภาระดับท็อปของพรรครีพับลิกัน รวมทั้ง จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ อีริก แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาล่าง ให้ออกมายืนยันในวันอังคาร (3) ว่าสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อแผนการของเขาในการโจมตีลงโทษอัสซาด
วันเดียวกันนั้น คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา ได้นำร่างมติที่เสนอโดยคณะรัฐบาลโอบามา มาปรับปรุงใหม่ โดยให้มีการกำหนดระยะเวลาการแทรกแซงทางทหารในซีเรียว่าต้องไม่เกิน 90 วัน รวมทั้งห้ามไม่ให้นำกำลังทหารอเมริกันเข้าสู่ดินแดนซีเรียที่กำลังเผชิญสงครามกลางเมืองที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 110,000 คน ทั้งนี้คณะกรรมาธิการชุดนี้มีกำหนดลงคะแนนในร่างมตินี้กันในวันพุธ
แต่ถึงแม้สมาชิกรัฐสภาสำคัญจากทั้งสองพรรคต่างแสดงท่าทีเห็นด้วยกับการสั่งสอนอัสซาด ผลสำรวจล่าสุดที่รอยเตอร์/อิปโซส์เผยแพร่ออกมาในวันอังคารยังคงระบุว่า ชาวอเมริกันถึง 56% ไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงซีเรีย มีเพียง 19% ที่สนับสนุนการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อระบอบอัสซาด