เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - โทนี แอ็บบอตต์ ผู้นำฝ่ายค้านออสเตรเลีย ประกาศในวันพุธ (4) ระบุจะให้ความสำคัญกับ “เอเชีย” เป็นลำดับแรก หากเขาชนะการเลือกตั้งทั่วไปในแดนจิงโจ้ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ (7) นี้
รายงานข่าวจากนครซิดนีย์ระบุว่า แอ็บบอตต์ ผู้นำฝ่ายค้านออสเตรเลีย สังกัดพรรคลิเบอรัล เปิดเผยระหว่างการเดินสายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายว่า หากเขาชนะการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ (7) และได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของออสเตรเลีย เขาจะมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียเป็นลำดับแรก และเตรียมจะเดินทางเยือนหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น รวมถึง เกาหลีใต้ หลังจากรับตำแหน่ง
ท่าทีล่าสุดของผู้นำฝ่ายค้านออสเตรเลีย ถือเป็นจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา ในออสเตรเลีย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้นำออสเตรเลียมักเดินทางไปเยือนประเทศพันธมิตรสำคัญอย่างสหรัฐฯ และอังกฤษก่อน หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่
ผู้นำฝ่ายค้านแดนจิงโจ้วัย 55 ปีซึ่งเกิดที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ ยังกล่าวด้วยว่า ผลประโยชน์แห่งชาติของออสเตรเลียในเวลานี้ถูกผูกติดยึดโยงอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียเป็นหลัก จนอาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันเอเชียมีความสำคัญต่อออสเตรเลีย มากกว่าประเทศตะวันตก
ในอีกด้านหนึ่ง เควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนปัจจุบันจากพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของแอ็บบอตต์ในการเลือกตั้งหนนี้ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำฝ่ายค้านว่า ไม่มีความสามารถเพียงที่จะดูแลนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงได้ และการเอาออสเตรเลียไปผูกติดกับเอเชีย โดยละเลยชาติตะวันตกจะถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่า นายกรัฐมนตรีรัดด์ยังคงมีคะแนนนิยมตามหลังแอ็บบอตต์ในแทบทุกโพลที่มีการสำรวจ ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนกว่าร้อยละ 90 ของออสเตรเลียในเวลานี้ต่างพากันประกาศจุดยืนให้การสนับสนุนแอ็บบอตต์ในการเลือกตั้งครั้งนี้