xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าของโรงแรม “ซกมกที่สุดในอเมริกา” แพ้คดี ศาลมะกันระบุเว็บไซต์มีสิทธิ์จัดอันดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หน้าเพจของเว็บไซต์ TripAdvisor ซึ่งระบุว่า โรงแรมแกรนด์รีสอร์ทโฮเทล ถูกผู้ใช้บริการจัดอันดับให้เป็นโรงแรมยอดสกปรก
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในเทือกเขาเกรทสโมกกี รัฐเทนเนสซีซึ่งได้รับเกียรติอันไม่น่าภาคภูมิใจให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อโรงแรมที่สกปรกที่สุดในสหรัฐฯ ปี 2011 ของ “ทริปแอดไวเซอร์” เว็บไซต์สำหรับนักเดินทาง ไม่สามารถฟ้องเอาผิดผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ทำโรงแรมเสียชื่อ ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ตัดสินในวันพุธ (28 ส.ค.)

เคนเนต ซีตัน เจ้าของโรงแรมแห่งนี้โอดครวญในคำฟ้องเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านดอลลาร์ว่า การจัดอันดับโรงแรมแกรนด์รีสอร์ทโฮเทลแอนด์คอนเวนชันเซ็นเตอร์ ในเมืองพีเจียนฟอร์จ รัฐเทนเนสซีครั้งนั้น ทำให้กิจการของเขาตกเป็นเหยื่อของระบบการจัดอันดับที่ไร้มาตรฐานจาก “ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง” อีกทั้งมีเจตนาบ่อนทำลายธุรกิจและชื่อเสียงของเขาให้ย่อยยับ

ทางด้านทริปแอดไวเซอร์ระบุว่า การจัดอันดับคราวนั้นเป็นไปตามความเห็นของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความสะอาดของสถานที่

ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์เขต 6 ในเมืองซินซินเนติตัดสินว่า การจัดอันดับครั้งนั้นไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อกันอย่างจริงจังว่า แกรนด์รีสอร์ทเป็น “โรงแรมที่สกปรกที่สุดในสหรัฐฯ” และผู้ดูแลเว็บไซต์ควรได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่จากการถูกดำเนินคดีเพราะบทวิจารณ์ที่บรรดาผู้ชมเว็บไซต์เขียนขึ้น

ขณะที่ในเว็บไซต์ ตรงส่วนข้อมูลของโรงแรมแห่งนี้ปรากฏรูปผ้าคลุมเตียงขาดๆ และถ้อยคำตำหนิจากผู้ใช้เว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ผู้หนึ่งเกี่ยวกับ “คราบในอ่างอาบน้ำที่หนาอย่างน้อย (ครึ่งนิ้ว) ซึ่งมีเส้นผมสีดำปกคลุมเต็มไปหมด” ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ คาเรน เนลสัน มัวร์กล่าวว่า ไม่มีใครที่มองว่าสิ่งนี้คือข้อสรุปว่าโรงแรมนี้ควรได้รับการจัดอันดับเช่นนั้น

นอกจากนี้เธอชี้แจงว่า “สกปรกที่สุด” เป็น “การใช้ถ้อยคำเกินจริง” อีกทั้งระบุว่า ความหมายกว้างๆ ของการจัดอันดับนี้ตลอดจนความคิดเห็นของผู้อ่านต่อโรงแรมอื่นๆ เป็นต้นว่า “บางทีห้องน้ำอาจจะน่านอนมากกว่า” และ “ไปนอนที่ชายหาดแทนเถอะ” ชี้ให้เห็นว่าการจัดอันดับนี้มีขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิง
บรรยากาศด้านหน้าโรงแรมแกรนด์รีสอร์ทโฮเทล
การจัดอันดับโรงแรมแกรนด์รีสอร์ทนั้น “ไม่สามารถพิจารณาว่าเป็นการทำลายชื่อเสียง” มัวร์ระบุในคำตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์โดยคณะผู้พิพากษาสามคน กระทั่งผู้อ่านที่ไม่รอบคอบที่สุดก็จะเข้าใจว่าคำว่า ‘สกปรกที่สุด’ เป็นการกล่าวเกินความจริงเท่านั้นเอง และแกรนด์รีสอร์ทไม่ใช่โรงแรมที่สกปรกที่สุดในสหรัฐฯ จริงตามที่ระบุ”

มัวร์ยังกล่าวต่อไปว่า การที่มีการจัดอันดับบนเว็บอย่างแพร่หลาย เช่น “10 สุดยอดคนงี่เง่า” และผลโพลของรีดเดอร์ไดเจสท์ที่สรุปว่า ทอม แฮงค์เป็นคนที่น่าไว้ใจที่สุดในสหรัฐฯ และ “ผู้พิพากษาจูดี” ชีนด์ลินน่าเชื่อถือยิ่งกว่าผู้พิพากษาในศาลสูงสุดอีก 9 คน ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การจัดอันดับแบบนี้เป็นแค่ความคิดเห็นไม่ใช่ข้อเท็จจริง

“คำตัดสินวันนี้คือชัยชนะของบรรดาเว็บไซต์แสดงความเห็นออนไลน์ ด้วยการไม่เพียงแต่อนุญาตให้พวกเขาเผยแพร่ความเห็นของผู้ใช้ แต่ยังสามารถรายงานเสนอข้อสรุปอีกด้วย” เจฟฟรีย์ แฮร์เมส ประธานโครงการกฎหมายสื่อดิจิตอล มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด กล่าว ทั้งนี้เขาเป็นผู้ยื่นสำนวนแก้ฟ้องเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ “การตัดสินของศาลครั้งนี้ช่วยให้พวกนักข่าวและนักวิจัยกล้านำข้อมูลที่พวกเขาได้รับจากผู้ใช้บริการมาเสนอต่อสาธารณชน”

ขณะที่อลิสัน โครเยิล โฆษกหญิงของทริปแอดไวเซอร์รู้สึกยินดีกับคำพิพากษามาก โดยกล่าวว่ามันเป็นการ “ปกป้องสิทธิของผู้บริโภคในการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์”

ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวระบุว่า โรงแรมแกรนด์รีสอร์ทปิดและขายกิจการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ทว่ายังคงปรากฏบนหน้าของเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ โดยในจำนวนผู้เข้ามาเขียนวิจารณ์ 321 รายมี 265 คนจัดอันดับให้โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ “แย่” และ “น่าขนลุก”
กำลังโหลดความคิดเห็น