รอยเตอร์ – เว็บไซต์บางส่วนของบริษัทสื่อที่มีชื่อเสียง เป็นต้นว่า นิวยอร์กไทมส์ ทวิตเตอร์ และฮัฟฟิงตันโพสต์ถูกโจมตี เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ภายหลังที่แฮกเกอร์ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลซีเรียได้เจาะเข้าสู่ระบบของบริษัทอินเทอร์เน็ตออสซี่ที่คอยจัดการดูแลเว็บไซต์สำคัญๆ เป็นจำนวนมาก
กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า “กองทัพอิเล็กทรอนิกซีเรีย” (Syrian Electronic Army) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยโจมตีบรรดาองค์กรสื่อที่พวกเขาเห็นว่าทำตัวเป็นศัตรูกับระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้อ้างความรับผิดชอบด้วยการทวีตข้อความติดต่อกันหลายครั้งว่าเป็นผู้รบกวนการทำงานของเว็บไซต์ทวิตเตอร์และฮัฟฟิงตันโพสต์
ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบุว่า เอกสารอิเล็กทรอนิกได้ชี้ให้เห็นว่า NYTimes.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เดียวที่มีสัญญาณขาดหายนานหลายชั่วโมง ได้ถูกเปลี่ยนทิศทางของผู้ที่ต้องการจะเข้าชมเว็บไซต์นี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ซึ่งกลุ่มแฮกเกอร์ซีเรียนี้ควบคุมแทน ก่อนที่เว็บนี้จะดับไปในเวลาต่อมา
สำหรับเว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์นั้น การโจมตีจำกัดวงอยู่เฉพาะบล็อกที่ใช้ที่อยู่เว็บของสหราชอาณาจักรเป็นแพลตฟอร์ม ขณะที่ทวิตเตอร์เผยว่าการแฮกครั้งนี้ทำให้เว็บไซต์ตกอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานนานชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่มีข้อมูลของผู้ใช้คนไหนเกิดความเสียหาย
การจู่โจมทางโลกไซเบอร์ครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาที่รัฐบาลโอบามากำลังพิจารณาจะดำเนินปฏิบัติการเล่นงานรัฐบาลซีเรีย ที่ได้ห้ำหั่นกับกลุ่มกบฏอย่างดุเดือดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มานานกว่า 2 ปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมนี้เอง กลุ่มแฮกเกอร์ที่หนุนหลังกองทัพอิเล็กทรอนิกซีเรียได้เคยพุ่งเป้าเล่นงานเว็บไซต์ต่างๆ ของซีเอ็นเอ็น ไทม์ และวอชิงตันโพสต์พร้อมๆ กันมาแล้ว ด้วยการเจาะระบบของหน่วยงานที่ทำหน้าที่ให้บริการจัดการดูแลเว็บไซต์เหล่านี้
ทั้งนี้ กองทัพอิเล็กทรอนิกซีเรียหรือ เอสอีเอ ประสบความสำเร็จในการเข้าควบคุมเว็บไซต์เหล่านี้โดยแทรกซึมเข้าสู่ระบบของ “เมลเบิร์นไอที” บริษัทให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตสัญชาติออสเตรเลียที่ทำธุรกิจขายและบริหารดูแลชื่อโดเมนต่างๆ รวมทั้งชื่อโดเมนดังๆ อย่างทวิตเตอร์และนิวยอร์กไทมส์
เจ้าหน้าที่ของนิวยอร์กไทมส์ซึ่งระบุว่า เมลเบิร์นไอทีเป็นนายทะเบียนที่บริหารจัดการชื่อโดเมนของทางบริษัท อีกทั้งเป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกแฮคเกอร์กลุ่มนี้เจาะระบบข้อมูล ได้ออกมาเตือนเหล่าลูกจ้างของนิวยอร์กไทมส์ให้หยุดส่งอีเมลที่สุ่มเสี่ยงจากโดเมนของบริษัท
ทางด้านโทนี สมิธ โฆษกของเมลเบิร์นไอทีกล่าวว่า ล็อกอินรับรองการเข้าสู่ระบบ (Logon credentials) ของตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งของบริษัทถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
“ขณะนี้เรากำลังทบทวนบันทึกของเราเพื่อดูว่าเราจะสามารถค้นหาตัวตนของผู้ที่นำล็อกอินรับรองของตัวแทนจำหน่ายรายนี้มาใช้ได้หรือไม่ และเราจะแจ้งข้อมูลดังกล่าวแก่ตัวแทนจำหน่ายรายนี้นี้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง” สมิธระบุ “นอกจากนี้เรายังจะทบทวนว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมใดหรือไม่ที่สามารถนำมาใช้ป้องกันแอคเคาต์ตัวแทนจำหน่ายของเรา”
ทางด้านทวิตเตอร์ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เพียงแต่ระบุในบล็อกของบริษัทว่า “ดูเหมือนว่าบันทึกดีเอ็นเอส (ระบบการตั้งชื่อโดเมน) ที่จัดเก็บข้อมูลขององค์กรต่างๆ จะถูกเปลี่ยนแปลง รวมไปถึง Twimg.com โดเมนของทวิตเตอร์ที่ใช้สำหรับเก็บรูป ทำให้การแสดงรูปภาพต่างๆ ได้รับผลกระทบอยู่เป็นพักๆ