“เยล” มหาวิทยาลัยชั้นนำแดนมะกัน เปิดสาขาใน “สิงคโปร์” แม้มีเสียงโต้แย้งกระหึ่ม

เอเอฟพี - มหาวิทยาลัยเยล เปิดตัววิทยาลัยศิลปศาสตร์แห่งใหม่ที่สิงคโปร์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (27 ส.ค.) ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประเทศที่ปกครองแบบเข้มงวดกวดขันอย่างสิงคโปร์จะมีสถาบันการศึกษาที่เน้นเรื่องความคิดเสรีเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้เยลยังคงยืนยันว่า “วิธีการคิดเชิงวิพากษ์” กำลังเป็นที่สนอกสนใจของพลเมืองในนครรัฐแห่งนี้ และชาติเอเชียอื่นๆ

วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสแห่งนี้ ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (เอ็นยูเอส) ตกเป็นเป้าวิจารณ์ของบรรดาคณาจารย์มหาวิทยาลัยเยล เนื่องจากสิงคโปร์เป็นชาติที่ปกครองแบบเข้มงวดและจำกัดสิทธิในการประท้วง ตลอดจนการแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา

“ชาวสิงคโปร์และคนชาติเอเชียในวงกว้างต่างหิวกระหายการศึกษาที่จะส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ที่แท้จริง และพวกเขาต้องการต้นแบบของการศึกษาด้านศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในบริบทของศตวรรษที่ 21” เพอริเคิลส์ ลูอิส คณบดีของวิทยาลัยใหม่แห่งนี้แถลง

เขากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “เราไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงวาทกรรมการเมืองใดๆ แต่เรากำลังจะมอบเครื่องมือที่ช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้การเป็นพลเมืองที่ให้ความสำคัญกับสิทธิและหน้าที่ของตน และรู้จักขบคิดในประเด็นปัญหาต่างๆ”

“เราคิดว่าพลเมืองที่ได้รับการศึกษาสูง เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของทุกประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์”

กลุ่มนักศึกษารุ่นบุกเบิกจำนวน 157 คน ซึ่งมาจาก 26 ประเทศ โดย 97 คนเป็นชาวสิงคโปร์ คือผู้ผ่านการคัดเลือกจากใบสมัครของผู้ขอเข้าศึกษากว่า 10,000 คน และจะเริ่มมีการเรียนการสอนในเดือนนี้ที่ห้องเรียนชั่วคราว

วิทยาเขตแห่งนี้ พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้านที่พัก ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาตามประสงค์ของทางวิทยาลัย จะเสร็จเปิดใช้งานได้ในปี 2015 โดยถูกออกแบบมาเพื่อรองรับนักศึกษาได้เต็มที่ 1,000 คน

วิทยาลัยแห่งนี้นับเป็นวิทยาเขตแห่งแรกที่เยลก่อตั้งขึ้นนอกพื้นที่ของมหาวิทยาลัยในเมืองนิวฮาเวน มลรัฐคอนเนตทิคัต

“เราเชื่อว่าวิทยาลัยนี้มีศักยภาพที่จะเป็นแบบอย่างให้แก่สถาบันอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย” ตัน คอห์ ฉวน อธิการบดีของเอ็นยูเอสกล่าว

ก่อนหน้านี้คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเยลได้ผ่านมติฉบับหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ซึ่งแสดง “ความกังวลใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของรัฐสิงคโปร์ ซึ่งขาดการเคารพในสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองมาโดยตลอด”

มตินี้เรียกร้องให้วิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอส ยึดมั่นเชิดชูเสรีภาพด้านต่างๆ ของประชาชนตลอดจนเสรีภาพทางการเมืองทั้งภายในวิทยาเขตและในสังคมระดับกว้าง

ทางด้านองค์การฮิวแมนไรต์วอตช์ (เอชอาร์ดับบลิว) ได้ออกมากล่าวหาว่าเยลได้ “ทรยศต่อจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัย ซึ่งมุ่งที่จะเป็นศูนย์กลางในการโต้เถียงและประท้วงโดยเสรี ด้วยการลิดรอนสิทธิของนักศึกษา” ในวิทยาลัยใหม่แห่งนี้

“แทนที่จะปกป้องสิทธิเหล่านี้ เยลกลับอ่อนปวกเปียกเมื่อเผชิญกับกฎหมายอันเด็ดขาดเข้มงวดของสิงคโปร์ในเรื่องการประท้วง รวมไปถึงนโยบายที่ห้ามไม่ให้นักศึกษาชุมนุมกันเพื่อแสดงออกทางการเมือง”

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ได้ออกมาแถลงในช่วงที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า การประท้วงของนักศึกษาในวิทยาเขตแห่งนี้จะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะผู้บริหารของวิทยาลัยเยล-เอ็นยูเอสเสียก่อน