รอยเตอร์ – ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนียลุกลามถึงเขตอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ (Yosemite) แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังของสหรัฐฯ วานนี้ (23) โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุขอบเขตที่แน่นอนของไฟได้
ไฟป่า “ริมไฟร์” ซึ่งปะทุขึ้นบริเวณป่าแห่งชาติสตานิสเลาส์ (Stanislaus) ตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว (17) ได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 11,000 เอเคอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ เมื่อบ่ายวานนี้ (23) หลังลุกลามกินบริเวณกว้างเป็น 2 เท่าในชั่วข้ามคืน แครี ค็อบบ์ โฆษกประจำอุทยานแห่งชาติเผย
ไฟป่าซึ่งเผาไหม้ผืนป่าแถบเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา นับว่าลุกลามเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับไฟป่ากว่า 50 จุดที่กำลังเกิดขึ้นทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯในเวลานี้ ขณะที่สำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นต้องหารือกับผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่จากแคนาดาเพื่อขอกำลังเสริม
ล่าสุดไฟได้ลุกลามไปถึงทะเลสาบเอลลินอร์ (Lake Eleanor) ที่อยู่ลึกเข้าไปในอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ และโดยปกติจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปตกปลาหรือเดินป่าได้ แต่เพิ่งจะมีคำสั่งปิดพื้นที่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดไฟป่า
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบกำหนดการเปิดและปิดพื้นที่ภายในอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ สามารถติดตามได้ที่ http://www.nps.gov/yose/index.htm
ค็อบบ์ระบุว่า ไฟป่ายังอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำ เฮ็ตช์ เฮ็ตชี ประมาณ 4 ไมล์ และห่างจากหุบเขาโยเซมิติซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหลัก ประมาณ 20 ไมล์
ไฟป่า “ริมไฟร์” ซึ่งถูกตั้งชื่อตามจุดชมวิว “ริม ออฟ เดอะเวิลด์” ภายในป่าแห่งชาติสตานิสเลาส์ เผาทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 12 หลัง และเมื่อวานนี้(23) เจ้าหน้าที่ก็เพิ่งจะควบคุมเพลิงไว้ได้ประมาณร้อยละ 2 เท่านั้น
เจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตเทศมณฑลทูอาเลอมี (Tuolumne) ส่วนทางหลวงหมายเลข 120 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เส้นทางมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติโยเซมิติ ถูกสั่งปิดชั่วคราวแล้ว
อุทยานแห่งชาติโยเซมิติซึ่งอยู่ห่างจากนครซานฟรานซิสโกและลอสแองเจลิสราวๆ 195 และ 315 ไมล์ตามลำดับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกได้เกือบ 4 ล้านคนในปีที่แล้ว