xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus:ช็อกโลก! นับพันศพตกเป็นเหยื่อสังเวยอาวุธเคมีซีเรีย ยังไม่ชัดฝีมือ “รบ.อัสซาด”หรือฝ่ายต่อต้าน “จัดฉาก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นับเป็นข่าวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก สำหรับการที่กองกำลังของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรียตัดสินใจเปิดการโจมตีด้วย “อาวุธเคมี” ต่อพื้นที่เขตชานเมืองโดยรอบกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคมที่ผ่านมาเพื่อกวาดล้างนักรบฝ่ายกบฏที่ยึดครองพื้นที่ดังกล่าว

ข้อมูลของฝ่ายกบฏและกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีจุดยืนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลอัสซาดชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของฝ่ายรัฐบาลระหว่าง 500-1,300 คน ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่น่าสะพรึงกลัวและก่อให้เกิดการสูญเสียมากที่สุดของโลก นับตั้งแต่ปี 1988 ที่ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักในเวลานั้น สั่งให้ใช้แก๊สพิษสังหารชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด ราว 3,000-5,000 คน

ข้อมูลของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลระบุว่า กองกำลังของอัสซาด ระดมยิงจรวดที่ติดหัวรบอาวุธเคมีเข้าใส่พื้นที่ย่านชานเมืองด้านตะวันออกของกรุงดามัสกัสซึ่งตกอยู่ใต้การยึดครองของนักรบฝ่ายกบฏ แต่ทว่าเขตดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งชุมชนของชาวมุสลิมนิกายซุนนีขนาดใหญ่อีกด้วยทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอัสซาดซึ่งเป็นชาวมุสลิมชีอะห์นิกายอะลาวิตอาจจงใจใช้อาวุธเคมีกวาดล้างทั้งฝ่ายกบฏและชาวมุสลิมซุนนี ที่มักแข็งข้อต่อรัฐบาลพร้อมกันในคราวเดียว

อย่างไรก็ดี รัฐบาลดามัสกัสปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยใช้อาวุธเคมีประหัตประหารพลเรือนของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาใด นิกายใดก็ตาม

อ็อมรอน โซอาบี รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารของซีเรียแถลงที่กรุงดามัสกัสว่า ข่าวการใช้อาวุธเคมีที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นไม่สมเหตุสมผล และถูกปรุงแต่งขึ้น พร้อมย้ำจุดยืนของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดที่จะไม่มีวันนำอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ออกมาใช้กับชาวซีเรียด้วยกัน

ถ้อยแถลงของรัฐบาลซีเรียได้รับการสนับสนุนอย่างทันควันจากรัฐบาลรัสเซียของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินซึ่งถือเป็น “มหามิตร” ของระบอบอัสซาด โดยรัฐบาลมอสโกออกคำแถลงที่มีเนื้อหาระบุ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความพยายามของฝ่ายกบฏในการ “ดิสเครดิต” ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลซีเรียในเวทีโลกเท่านั้น

ในทางกลับกันรัฐบาลสหรัฐฯและอีกหลายชาติในยุโรป ซึ่งประกาศหนุนหลังฝ่ายกบฏในซีเรียอย่างออกนอกหน้า ต่างออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อข่าวที่เกิดขึ้นว่า กองกำลังของรัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีที่มีแก๊สพิษซารินเป็นส่วนประกอบในการสังหารหมู่พลเรือนของตัวเองจริง และผลักดันให้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มหานครนิวยอร์กในทันทีเพื่อประณามการกระทำดังกล่าว

สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงฯทั้ง 15 ประเทศต่างแสดง “ความวิตกกังวลอย่างยิ่ง”ในสิ่งที่กบฎซีเรียกล่าวอ้าง และถือว่าการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม เท่ากับเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้มีการค้นหาคำตอบที่ชัดเจนต่อเหตุการณ์ในซีเรีย

ขณะที่บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติออกถ้อยแถลงแสดงความตกตะลึงต่อข่าวการใช้อาวุธเคมีในซีเรียพร้อมกำชับให้ทีมตรวจสอบของยูเอ็นที่นำโดยอาเก เซลล์สตรอม ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธชาวสวีดิชที่เพิ่งเดินทางถึงซีเรียเร่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านผลกระทบของอาวุธเคมีต่างชี้ว่า คลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากรวมถึงเด็กๆ ที่ทางฝ่ายกบฏเผยแพร่ออกมานั้น ยังไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก


“ดิฉันไม่เชื่อถือคลิปวีดีโอพวกนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไม่ได้สวมชุดป้องกัน และไม่มีเครื่องช่วยหายใจด้วย ซึ่งหากเป็นความจริง พวกเขาก็จะพลอยได้รับพิษและมีอาการป่วยไปด้วย” พอลลา วานนิเนน ผู้อำนวยการสถาบัน VERIFIN ในฟินแลนด์ ตั้งข้อสังเกต

ขณะที่ จอห์น ฮาร์ท หัวหน้าโครงการความปลอดภัยทางเคมีและชีววิทยา จากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่าง ประเทศในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน ระบุว่า ตนยังไม่เห็นหลักฐานจากดวงตาของเหยื่อ ซึ่งจะบ่งชี้ได้ว่า พวกเขาถูกทำร้ายด้วยอาวุธเคมีจริงหรือไม่ โดยระบุ ไม่มีเหยื่อรายใดที่ม่านตาหดเล็กลงจนเหลือขนาดเท่ารูเข็ม (pinpoint pupils) ซึ่งจะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า พวกเขาได้รับสารพิษทำลายระบบประสาทจำพวกออร์แกโนฟอสฟอรัสที่เป็นส่วนประกอบในอาวุธเคมี

จนถึงขณะนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีจริงหรือไม่ รวมถึงยังไม่มีใครสามารถยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของคลิปวิดีโอต่างๆที่ส่วนใหญ่ถูกเผยแพร่โดยฝ่ายกบฏ แต่ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมก่อให้เกิดแรงกดดันมหาศาลพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลซีเรีย ที่เป็น 1 ใน 7 ประเทศทั่วโลก ที่ยังคงไม่ให้การรับรองต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศที่ห้ามการใช้อาวุธเคมีอย่างเด็ดขาด






ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย
กำลังโหลดความคิดเห็น