รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติวอนรัฐบาลซีเรียเปิดไฟเขียวให้คณะผู้ตรวจสอบยูเอ็นเข้าทำการสืบสวนโดยไม่รั้งรอต่อข่าวการใช้อาวุธเคมีล่าสุดในพื้นที่รอบกรุงดามัสกัส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 500 -1,300 คนตามข้อมูลของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
บันยังได้ร้องขอให้แองเจลา เคน ข้าหลวงใหญ่ยูเอ็นด้านกิจการการปลดอาวุธเดินทางไปยังเมืองหลวงของซีเรียเพื่อผลักดันให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นสามารถเข้าถึงพื้นที่ต้องสงสัยได้โดยสะดวก หลังจากที่ทีมผู้เชี่ยวชาญได้เดินทางไปถึงซีเรียแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ (18) ที่ผ่านมา
รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากโลกตะวันตกและรัฐอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงชาติพันธมิตรของซีเรียอย่างรัสเซีย ให้มีการอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของฝ่ายกบฏโดยเฉพาะจุดที่มีรายงานการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในวันพุธ (21)
บัน กล่าวที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ในวันศุกร์ (23) โดยยืนยันว่า เขากำลังกดดันอย่างหนักเพื่อให้รัฐบาลซีเรียร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ทางยูเอ็นสามารถเริ่มกระบวนการสอบสวนได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ ทีมตรวจสอบของยูเอ็นที่นำโดยอาเก เซลล์สตรอม นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีดิชมีภารกิจเบื้องต้นในการเข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัย 3 แห่งที่มีรายงานอย่างน้อย 14 ฉบับว่าอาจมีการใช้อาวุธเคมีในช่วงที่ผ่านมาแต่ไม่รวมถึงพื้นที่แถบชานกรุงดามัสกัสที่เกิดการโจมตีระลอกล่าสุด
ซีเรียเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่ไม่เข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาปี 1997 ว่าด้วยการห้ามการใช้อาวุธเคมีทุกรูปแบบ ขณะที่ชาติตะวันตกอ้างว่ารัฐบาลซีเรียมีหัวเชื้อแก๊สพิษซาริน แก๊สพิษมัสตาร์ดเก็บไว้เป็นจำนวนมาก
ขณะที่องค์การสหประชาชาติชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100,000 คนจากความขัดแย้งในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 ส่วนประชาชนอีกมากกว่า 1.9 ล้านคนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ