รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติชาวเกาหลีใต้แถลงในวันพุธ (14) โดยระบุว่าเตรียมส่งคณะผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้าไปตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย หลังจากที่ยูเอ็นและรัฐบาลซีเรียบรรลุข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับแผนการตรวจสอบ
เลขาธิการยูเอ็น ยืนยันว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ได้เห็นชอบอย่างเป็นทางการให้คณะผู้ตรวจสอบจากสหประชาชาติ ที่นำโดย อาเก เซลล์สตรอม นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีดิช เข้าไปปฏิบัติภารกิจในซีเรียได้นานอย่างน้อย 14 วัน และสามารถขยายเวลาได้อีก โดยจะมีการตรวจสอบสถานที่ต้องสงสัย 3 แห่งที่มีรายงานว่ามีการใช้อาวุธเคมีในช่วงก่อนหน้านี้
หนึ่งในพื้นที่ต้องสงสัยที่ทีมผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติจะเข้าไปตรวจสอบ คือ เขตข่าน อัล- อัสซาล ในเมืองอะเลปโป ที่ทางรัฐบาลซีเรียกล่าวหาว่า นักรบฝ่ายกบฏนำอาวุธเคมีมาใช้ในการสู้รบเมื่อเดือนมีนาคม ส่วนอีก 2 จุดที่ต้องถูกตรวจสอบนั้นยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัด ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งเข้ายึดครองเขตข่าน อัล-อัสซาลได้อย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่เดือนที่แล้ว ก็ประกาศพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็น
ก่อนหน้านี้ ทางยูเอ็นได้รับรายงานอย่างน้อย 13 ฉบับเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียโดยในจำนวนนี้ 1 ฉบับ เป็นของรัฐบาลซีเรีย ส่วนที่เหลือมาจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ
โดยรัฐบาลอเมริกันสรุปเมื่อเดือนมิถุนายนว่า กองกำลังของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ใช้อาวุธเคมีจัดการกับฝ่ายต่อต้าน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ล้ำเส้นตามที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยประกาศไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ซีเรียเป็น 1 ใน 7 ประเทศที่ไม่เข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาปี 1997 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมีอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ข้อมูลของยูเอ็นระบุว่า ความขัดแย้งในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2011 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 100,000 คน ขณะที่ชาวซีเรียอีกมากกว่า 1.9 ล้านคนต้องหนีออกนอกประเทศ ส่วนอีกมากกว่า 4.2 ล้านคนต้องเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ