รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - อัตราการป่วยจากวัณโรคในสหราชอาณาจักร ติดอันดับสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ขณะที่กรุงลอนดอนยังคงไม่หลุดพ้นจากสถานะ “เมืองหลวงแห่งวัณโรค” ของภูมิภาค และหากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ เมืองผู้ดีจะมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ต่อปีมากกว่าสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยขององค์กรสาธารณสุขแห่งอังกฤษ หรือ “พีเอชอี”
ข้อมูลของพีเอชอีระบุว่า ในปี 2012 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยวัณโรคมากกว่า 8,750 รายในสหราชอาณาจักร หรือคิดเป็นผู้ป่วยราว 14 คนต่อประชากรทุกๆ 100,000 ราย ส่งผลให้อังกฤษกลายเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีผู้ป่วยวัณโรคสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก
ขณะที่กรุงลอนดอนที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 8.3 ล้านคน กลับเป็นจุดที่พบผู้ป่วยวัณโรคมากที่สุดถึง 3,426 ราย หรือเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยวัณโรคทั้งประเทศ
รายงานของพีเอชอีชี้ว่า เกือบ 3 ใน 4 ของผู้ป่วยวัณโรคในสหราชอาณาจักรจะเป็นผู้ที่อพยพเข้ามาจากภูมิภาคเอเชียใต้ และประเทศแถบตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของวัณโรคในวงกว้าง
ขณะเดียวกัน พอล คอสฟอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสุขภาพของพีเอชอี ยังเผยว่า ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยวัณโรคในเมืองผู้ดีจะมีอัตราสูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศในยุโรปตะวันตกเท่านั้น แต่ขณะนี้ปัญหาการดื้อยาของผู้ป่วยวัณโรคกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลอังกฤษต้องเร่งหาทางรับมือเช่นกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าราว 1 ใน 3 ของประชากรทั่วโลกสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อวัณโรค โดยเมื่อปี 2010 พบผู้ติดเชื้อวัณโรคทั่วโลกกว่า 8.8 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ราว 1.45 ล้านคนต้องเสียชีวิต
