รอยเตอร์ - ตั้งแต่โลงศพรูปปลาไปจนถึงการฆ่าวัวเพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงแขก การจัดพิธีศพในแอฟริกานั้นเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูง สิ่งนี้ทำให้บรรดาบริษัทประกันมองเห็นช่องทางธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรงาม ในหลายประเทศของทวีปนี้ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตเร็วที่สุดติดอันดับโลก
กิจการจำนวนมากที่เป็นตัวทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ธุรกิจประกันภัยในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว เป็นต้นว่า การขายประกันภัยรถยนตร์ และการประกันอายุใช้งานของอุปกรณ์ในครัวเรือนต่างๆ ไม่ได้สอดคล้องเกี่ยวข้องกับชีวิตของชาวแอฟริกันส่วนใหญ่ที่ไม่มีกำลังทรัพย์พอจะซื้อของใช้ราคาแพงเหล่านี้เลย
ทว่าอัตราการตายสูงและระดับเงินออมต่ำของแอฟริกาย่อมหมายความว่าเป็นเรื่องไม่ยากเลยสำหรับการขายประกันงานศพให้ผู้ที่กลัวว่าจะมีเงินไม่พอจัดงานสำหรับผู้วายชนม์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่คิดเป็นรายได้รวมกันหลายเดือนทีเดียว
“นั่นคือปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด คนชอบคิดว่าถ้าคุณต้องการจัดงานศพแบบเล็กๆ แบบประหยัดๆ นั่นหมายความว่าคุณไม่มีเงิน” เอมิลี โชเกกล่าว ทั้งนี้เธอเป็นที่ปรึกษาด้านความงามวัย 43 ปีจากเมืองโยฮันเนสเบิร์กผู้ที่จ่ายเงิน 570 แรนด์ (ราว 1,984 บาท) ต่อเดือนเพื่อเป็นเบี้ยประกันภัยการจัดงานศพของคนในครอบครัว
“พวกเขามีวิธีที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าใครๆ ก็คิดผิดที่นึกว่าฉันไม่มีปัญญาจัดงานศพใหญ่ๆ ให้พ่อกับแม่ฉันได้” เธอกล่าว
ชาวแอฟริกันไม่ใช่พวกเดียวที่ใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ในทวีปนี้ประชากรแต่ละคนมักมีค่าใช้จ่ายในการในการจัดงานศพสูงกว่าที่อื่นๆ ในโลก
ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในทวีป พบว่าในแต่ละปีจะมีประชากรมากกว่า 17 คนต่อ 1000 คนเสียชีวิต ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่าตัวของอัตราการตายทั่วโลก นอกจากนี้ 6 ใน 10 ของประเทศที่มีอัตราการตายสูงสุดก็อยู่ในทวีปแอฟริกา ตามข้อมูลของซีไอเอเวิลด์แฟกต์บุ๊ก
เนื่องจากอัตราการเสียชีวิตยังอยู่ในระดับสูงแม้ว่ากำลังลดลงเรื่อยๆ แล้ว มันจึงกลายเป็นส่วนประกอบที่ดึงดูดใจบรรดาบริษัทประกันภัยผู้คาดการณ์ว่าลูกค้าจะมีระยะเวลาจ่ายเบี้ยประกันนานขึ้น
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานสูงและอัตราการเกิดที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศจำนวนมากในทวีปแอฟริกานั้น หมายความว่าผู้ที่มีงานทำจะมีคนที่ต้องดูแลเลี้ยงดูเป็นจำนวนมาก ทำให้ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาน่าจะทำประกันภัยจัดงานศพ
