เอเจนซีส์ - คณะลูกขุนในมลรัฐฟลอริดาที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดแต่ไม่มีแอฟริกันอเมริกันร่วมเลย ในที่สุดตัดสินเมื่อวันเสาร์ (13) ให้ปล่อยตัว จอร์จ ซิมเมอร์แมน วัย 29 อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยประจำชุมชน ผู้ใช้ปืนพกของเขาสังหาร เทรวอน เบนจามิน มาร์ติน วัยรุ่นผิวสีวัย 16 ที่ปราศจากอาวุธซึ่งออกจากบ้านไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านช่วงทีวีพักโฆษณา โดยเชื่อตามคำอ้างของจำเลยซึ่งพ่อเป็นคนผิวขาวและแม่เป็นฮิสแปนิกผู้นี้ที่ว่า เขาป้องกันตัวตามกฎหมาย Stand-your-ground ของมลรัฐ ในขณะที่สื่อในสหรัฐฯประโคมข่าว กลัวการเกิดจลาจลหลังคำตัดสิน
คดีประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์สีผิวในสหรัฐฯที่มีระยะเวลากว่า 16 เดือนในที่สุดก็พิสูจน์ว่าความแตกต่างระหว่างสีผิวยังมีอยู่จริงในสังคมอเมริกัน จอร์จ ซิมเมอร์แมน วัย 29 อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยประจำชุมชน ที่ถูกอ้างว่าใช้ระบบ Racial Profile หรือการใช้สีผิวเป็นการแยกแยะบุคคลที่น่าสงสัยในชุมชนที่เขาอยู่ ได้ลงมือสังหาร เทรวอน มาร์ติน วัย 16 จาก ฟลอริดา ในขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้านหลังออกมาแวะซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน มาร์ตินสวมเสื้อแบบมีที่คลุมศีรษะ ผิวสี ซึ่งตรงกับโพรไฟว์ที่น่าสงสัยในสายตาของ ซิมเมอร์แมน ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการเตือนจากเจ้าหน้าที่สายตรวจไม่ให้ติดตามมาร์ตินไป แต่เขายังทำ และภายหลังจากที่เขาสังหารมาร์ตินด้วยอาวุธปืนพกของเขาเองแล้วซิมเมอร์แมนได้ให้การกับตำรวจสายตรวจว่า เขากลัวถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตจึงต้องใช้ปืนตามกฎหมายฟลอริดา Stand-your-ground ที่อนุญาตให้ป้องกันตัวได้ตามเหตุจำเป็น หากเชื่อได้ว่าจะถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต
และคดีนี้ทำท่าลุกลามจนกลายเป็นศึกระหว่างสีผิว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจฟลอริดาใช้เวลาถึง 45 วันก่อนที่จะจับ ซิมเมอร์แมน จนกระทั่งเมื่อถึงชั้นศาล หลักฐานชิ้นสำคัญในคดี (เสียงบันทึกแจ้งเหตุของผู้อาศัยใกล้บริเวณที่เกิดเหตุโทร.แจ้ง 911 และมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือเป็นเสียงแบ็กกราวนด์) ไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการจำแนกเสียงขึ้นให้การ โดยอ้างว่าเสียงนั้นไม่มีคุณภาพมากพอที่จะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้
ในวันเสาร์ (13) ที่ผ่านมา คณะลูกขุนชาวฟลอริดาที่เป็นสตรีทั้งหมดจำนวน 9 คน โดยไม่มีลูกขุนคนใดที่มีเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันเลย ใช้เวลา 16 ชั่วโมง 20 นาที ภายใน 2 วัน ตัดสิน จอร์จ ซิมเมอร์แมน “ไม่ผิด” ในข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตุนา หรือข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรอง เป็นเพราะพวกเธอเชื่อในคำให้การของซิมเมอร์แมนที่ว่า เขาจำเป็นต้องสังหารมาร์ติน เพราะต้องรักษาชีวิตของตัวเองไว้
หลังจากนั้น ผู้พิพากษา เดบรา เนลสัน ประกาศว่า ในวันเสาร์ (13)เวลา 22.00 น.ว่า จอร์จ ซิมเมอร์แมน สามารถออกจากศาลได้โดยอิสระ และเครื่องติดตามตัว GPS ที่สวมอยู่จะถูกถอดออกก่อนที่เขาจะเดินออกนอกอาคาร ท่ามกลางความดีใจของครอบครัวซิมเมอร์แมน และความเสียใจของครอบครัวมาร์ตินที่ไม่ได้มาฟังคำตัดสินด้วยตนเอง และความโกรธแค้นของผู้มาประท้วงรออยู่ด้านนอก ซึ่งก่อนหน้านี้ บิดามารดาของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เทรวอน เบนจามิน มาร์ติน กล่าวว่า คดีซิมเมอร์แมนนี้เป็นฝันร้ายที่สุดของพ่อแม่แอฟริกันอเมริกันจะมีได้ การที่กลัวว่าลูกตัวเองต้องตายฟรีเพราะเขาโดนล็อกเป้าสังหาร เพราะสีผิวของเขา และต้องมานั่งฟังคำบรรยายถึงเหตุการณ์ในสิ่งที่ลูกตัวเองได้รับ และที่สำคัญที่สุดไม่มีลูกขุนคนใดที่จะเข้าใจความกลัวที่คนผิวสีอเมริกันมี เพราะพวกเธอเป็นอเมริกันเชื้อสายอื่น
และจากปฏิกิริยาของสื่อในสหรัฐฯที่มักจะอ่อนไหวในประเด็นที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ต่างกลัวว่าจะเกิดจลาจลขึ้นหลังคำตัดสิน เพราะคดีนี้ชาวแอฟริกันอเมริกันต่างหวังว่าอย่างน้อยซิมเมอร์แมนควรจะได้รับการลงโทษหลังจากที่เฝ้ารอมากว่า 16 เดือน ซึ่งจากที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ การจลาจลร้ายแรงเพราะความไม่พอใจของการกีดกันทางสีผิวครั้งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นที่เมืองแอลเอในยุค 90 ที่ทำให้ต้องปิดเมืองแอลเอไปทั้งเมือง