เอเจนซี - มารินา ลูกสาวคนโตของซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี ประธานอาณาจักรธุรกิจ 6,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี เมื่อวันอังคาร(13) ออกมาปฏิเสธข่าวลือหนาหูว่าเธอเตรียมเข้าทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายขวากลางแทนผู้เป็นพ่อที่เพิ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง ยันไม่เคยมีความคิดเข้าสู่แวดวงการเมือง
ข่าวลือว่าเธออาจเข้าสานต่อตำแหน่งผู้นำพรรคสะพัดหนาหูขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาเมืองมิลาน พิพากษายืนว่าเขามีความผิดฐานโกงภาษี และมีสิทธิ์ถูกกักบริเวณเป็นเวลา 1 ปีหรือไม่ก็ทำงานรับใช้สังคม
นอกจากนี้แล้วยังดูเหมือนว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี 4 สมัย ซึ่งครอบงำการเมืองอิตาลีตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จะถูกถอดถอนออกจากเก้าอี้วุฒิสภาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้และหมดสิทธ์ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกต่อไป
"ฉันขอย้ำอีกครั้งและโดยสิ้นเชิงว่า ฉันไม่เคยคิดเข้าสู่แวดวงการเมืองเลย" มารินา วัย 47 ปีกล่าวในถ้อยแถลง พร้อมระบุหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการออกมาปฏิเสธครั้งนี้จะเป็นการยุติข่าวลือต่างๆนานาอย่างเด็ดขาดเสียที
มารินา ออกมายืนยันก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้งว่าไม่เคยมีความทะเยอทะยานทางการเมือง และเหล่าผู้ภักดีต่อนายแบร์ลุสโกนี ก็ยืนกรานว่าอดีตนายกรัฐมนตรีรายนี้จะยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาชนแห่งเสรีภาพ(พีดีแอล) ต่อไป
อย่างไรก็ตามคำยืนยันเหล่านี้ก็ไม่อาจกลบกระแสข่าวลือว่า มารินา จะเข้ามานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพีดีแอลชั่วคราว ในช่วงที่ แบร์ลุสโกนี ต้องพ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับทางกฎหมาย ซึ่งแม้แต่หนังสือพิมพ์ Il Giornale ของทางครอบครัวเอง ก็ยังเคยขึ้นหน้าหนึ่งระบุถึงความเป็นไปได้เธอจะเข้ามารับหน้าที่นี้
สื่อมวลชนอิตาลีบางฉบับ ตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อปี 1994 ตัวแบร์ลุสโกนีเองก็เคยปฏิเสธเข้าสู่แวดวงทางการเมืองเช่นกัน แต่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นเขาก็กลับลำลงสมัครและได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
มารินา แบร์ลุสโกนี ติดอันดับสตรีผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากการประกาศของนิตยสารฟอร์บส์ โดยเวลานี้เธอดำรงตำแหน่งประธานฟินินเวสต์ บริษัทแม่ที่ควบคุมอาณาจักรสื่อสารมวลชนมิเดียเซ็ต ร้านหนังสือมอนดาโดริและสโมสรเอซี มิลาน