เอเจนซีส์ - การเมืองอิตาลีพ้นทางตันที่ติดแหง็กอยู่ 2 เดือนภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อรัฐบาลชุดใหม่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งแล้วในวันอาทิตย์ (28) ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาบ้างว่า ประเทศสมาชิกยูโรโซนรายสำคัญรายนี้จะสามารถเดินหน้าต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี กระนั้นก็ยังไม่วายเกิดเหตุแทรกซ้อนทำให้เสียฤกษ์ โดยมีนักธุรกิจเสียจริตก่อเหตุกราดยิงตำรวจที่ด้านนอกสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกัน พวกผู้สันทัดกรณีคาดรัฐบาลผสมระหว่างฝ่ายกลาง-ซ้าย กับ ฝ่ายกลาง-ขวาชุดนี้ อาจมีอายุอย่างมากแค่ 1-2 ปี
เอนริโก เล็ตตา ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีประธานาธิบดีจิออร์จิโอ นาโปลิทาโน ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งเขา เป็นประธานในพิธี
คาดหมายว่า เล็ตตา วัย 46 ปี หนึ่งในนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในยุโรป จะแถลงนโยบายการบริหารประเทศในระหว่างการประชุมรัฐสภาวันจันทร์ (29) ก่อนที่รัฐสภาจะมีวาระเปิดอภิปรายไว้วางใจรัฐบาลในวันถัดไป
ทางตันทางการเมืองเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อกลุ่มพรรคกลาง-ซ้ายชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากในสภาล่าง ทว่าไม่อาจได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาสูง โดยที่ระบบการเมืองของอิตาลีนั้นทั้งสองสภาแทบจะมีอำนาจเท่าๆ กัน ดังนั้นกลุ่มนี้จึงไม่สามารถฟอร์มรัฐบาลโดยลำพังได้ ขณะที่ความพยายามทั้งหลายที่จะตั้งรัฐบาลผสมก็ไม่บังเกิดผล ทำให้ประเทศไม่อาจทำอะไรคืบหน้าในการยุติภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี และในที่สุด ฝ่ายกลาง-ซ้าย ต้องยอมทำในสิ่งที่พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงมาอย่างสุดฤทธิ์ นั่นคือการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายกลาง-ขวา ที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี
เล็ตตานั้นแสดงเจตนารมณ์ว่า ต้องการแก้ไขปัญหาการว่างงานที่ขณะนี้อยู่ที่ 11.6% โดยเร็ว รวมทั้งกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
ผู้นำพรรคฝ่ายซ้ายผู้นี้ยังให้คำมั่นที่จะผ่อนคลายมาตรการรัดเข็มขัดซึ่ง มาริโอ มอนติ อดีตนายกรัฐมนตรีสายเทคโนแครต นำมาใช้ด้วยจุดมุ่งหายที่จะปกป้องคุ้มครองอิตาลีให้พ้นจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน ทว่าทำให้ประชาชนอิตาลีได้รับความลำบากเดือดร้อนแสนสาหัส คำสัญญาของเล็ตตานี้เป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกังวลกับหนี้ 2 ล้านล้านยูโรของแดนมักกะโรนี ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 130.4% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้
หลังจากเปิดเผยโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีเมื่อวันเสาร์ (27) เล็ตตาบอกว่า เขาภูมิใจที่มีคณะรัฐมนตรีเป็นคนรุ่นใหม่ กล่าวคือมีอายุเฉลี่ย 53 ปี รวมทั้งผู้หญิงมากขึ้น เพื่อฉีกแนวให้หลุดจากสถานการณ์การเมืองที่ซ้ำซากจำเจ และฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อนักการเมือง
ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การตัดนักการเมืองใหญ่บางคนออกจากคณะรัฐมนตรี เป็นความพยายามเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดแย้งในรัฐบาลผสม และขานรับเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง
กระนั้น การที่เล็ตตาแต่งตั้งแองเจลิโน อัลฟาโน ซึ่งเป็นคนสนิทของแบร์ลุสโคนี และเป็นเลขาธิการพรรคกลาง-ขวา พีเพิล ออฟ ฟรีดอม (พีดีแอล) เป็นรองนายกฯ เพื่อเอาใจฝ่ายขวานั้น ก็ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า เป็นการอ่อนข้อเกินไปให้แก่แบร์ลุสโคนี มหาเศรษฐีที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว
ทั้งนี้ คะแนนนิยมในตัวแบร์ลุสโคนีเอง แม้กำลังถูกดำเนินคดีในศาลข้อหาซื้อบริการทางเพศโสเภณีอายุ 17 ปี แต่ก็กระเตื้องตีตื้นขึ้นมา และเขาพยายามผลักดันให้ลูกน้องคนสำคัญๆ มีตำแหน่งในรัฐบาลชุดใหม่ โดยอัลฟาโนนั้นจะได้คุมกระทรวงมหาดไทยด้วย
สำหรับ ฟาบริซิโอ ซัคคอมมานนี ผู้ว่าการธนาคารกลาง ได้รับการวางตัวเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการคลัง ขณะที่เอ็มมา โบนิโน อดีตกรรมาธิการยุโรป ได้นั่งกระทรวงการต่างประเทศ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การพยายามสร้างความสามัคคีระหว่างพรรคที่ร่วมรัฐบาลถือเป็นงานที่ยากเย็น โดยเฉพาะระหว่างพรรคเดโมเครติก ปาร์ตี้ของเล็ตตา กับพีดีแอลของแบร์ลุสโคนีที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ทำให้ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศบางกลุ่มผ่อนคลายความกังวลลง หลังจากที่บริษัทจัดอันดับ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ออกคำเตือนเมื่อวันศุกร์ (26) ว่า ภาวะชะงักงันทางการเมืองในอิตาลีเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน
เล็ตตานั้นให้คำมั่นผลักดันการปฏิรูปสำคัญ เช่น การจัดการกับกฎหมายเลือกตั้งที่ซับซ้อนที่ทำให้เกิดทางตันทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี รัฐบาลร่วมที่ประกอบด้วยสองกลุ่มการเมือง โดยที่แต่ละกลุ่มก็มีการแตกแยกภายใน อาจทำให้ภารกิจนี้ยากลำบากยิ่งขึ้น
อันโตนิโอ พาเดลลาโร จาก “อิล ฟัตโต โคทิเดียโน” หนังสือพิมพ์ฝ่ายซ้าย ชี้ว่า รัฐบาลของเล็ตตาคือระเบิดเวลาสำหรับการยุบสภา เนื่องจากจะต้องเผชิญแรงเสียดทานภายในพรรคของตนเอง อีกทั้งยังจะถูกบีบในสภาให้ร่วมจัดการปัญหาส่วนตัวของแบร์ลุสโคนี ศัตรูเก่า
นักวิเคราะห์การเมืองเตือนว่า รัฐบาลผสมน่าจะมีอายุไม่เกิน 1-2 ปี ก่อนที่พรรคร่วมรัฐบาลจะแตกแยกกัน หรือนักการเมืองในพรรคก่อกบฏ ทำให้ต้องยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่
อนึ่ง ในขณะที่คณะรัฐมนตรีทำพิธิสาบานตนอยู่นั้น ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีชายผู้หนึ่งที่ใส่สูทผูกไทได้ยิงปืนกราดใส่ตำรวจในระยะประชิดตัว ที่บริเวณด้านนอกของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ติดๆ กับถนนสายช็อปปิ้งสายหลักของกรุงโรมที่ในขณะนั้นมีผู้คนแออัด ทำให้มีตำรวจบาดเจ็บสาหัส 2 คน และประชาชนที่ผ่านไปมาบาดเจ็บไปคนหนึ่ง
สื่ออิตาลีรายงานว่า คนร้ายที่ก่อเหตุชื่อ ลุยจิ เปรอิติ นักธุรกิจวัย 49 เขาถูกตำรวจล็อกตัวหมอบอยู่กับพื้นภายหลังก่อเหตุ ขณะที่ จีอานนี อเลมานโดน นายกเทศมนตรีกรุงโรมระบุว่า นี่เป็นการก่อเหตุของชายที่เป็นคนบ้า มีอาการป่วยทางจิต และแสดงสัญญาณของความต้องการฆ่าตัวตาย ไม่ใช่พฤติการณ์ก่อการร้าย
