เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ออกประกาศในวันพฤหัสบดี (8) เตรียมปรับลดจำนวนบุคลากรที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบลงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดทอนความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ในส่วนนี้อาจกลายเป็น “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน คนที่ 2” นำความลับสุดยอดของประเทศออกไปเปิดเผย
คีธ อเล็กซานเดอร์ ผู้อำนวยการเอ็นเอสเอ หนึ่งในองค์กรสายลับชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการเฝ้าระวังการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ เปิดเผยระหว่างเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงไซเบอร์ที่มหานครนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (8) โดยระบุ ทางเอ็นเอสเอ กำลังหาทางปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยในองค์กร ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น หลังเกิดกรณีอื้อฉาวสะท้านโลกเมื่ออดีตลูกจ้างในสังกัดอย่างเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนที่ขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในรัสเซียออกมาเปิดโปงเอกสารลับผ่านสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ “เดอะ การ์เดียน” และ “วอชิงตัน โพสต์” แสดงหลักฐานเด็ดว่า ที่ผ่านมารัฐบาลอเมริกันแอบสอดแนมความเคลื่อนไหวของพลเมืองต่างชาติโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาโดยตลอด และละเมิดเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างเลวร้าย
โดยหนึ่งในแนวทางที่ผู้อำนวยการเอ็นเอสเอหยิบยกมาพูดถึง คือ การปรับลดกำลังบุคลากรในส่วนผู้ดูแลระบบที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลลับทั้งหลายลงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากระดับปัจจุบันที่มีเจ้าหน้าที่ในส่วนนี้อยู่กว่า 1,000 คน
อเล็กซานเดอร์ระบุทางเอ็นเอสเอจะอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานแทนที่เจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์ หวั่นมีคนในองค์กรทำตัวเป็น “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน 2”
นอกจากนั้น ในงานบางอย่างที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้กำลังคนอยู่ทางผู้อำนวยการเอ็นเอสเอ เผยว่า อาจต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าถึงข้อมูลลับ โดยอาจต้องใช้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คนขึ้นไปต่อการเปิดไฟล์ข้อมูลลับในแต่ละไฟล์ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งมีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลลับของประเทศมากเกินไป
