เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงแห่งสิงคโปร์ปรับเพิ่มเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้จาก 2.5 เปอร์เซ็นต์เป็น 3.5 เปอร์เซ็นต์ หลังมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเหล่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
“เศรษฐกิจของสิงคโปร์เริ่มกระเตื้องขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รัฐบาลของเราทำงานอย่างหนักในการแก้ปัญหาต่างๆทั้งราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูง การกู้ยืมที่มากเกินพอดี การรักษาระดับการว่างงานที่ต่ำเตี้ย และการดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพเข้ามาในประเทศของเรา” นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงกล่าว
ผู้นำรัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่า ในปี 2013 เศรษฐกิจของประเทศน่าจะมีการเติบโตได้ถึง 3.5 เปอร์เซ็นต์ หลังมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในสหรัฐฯและญี่ปุ่น ซึ่งได้ช่วยชดเชยผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้
ท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มีขึ้นไม่นาน หลังจากมีการประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ซึ่งปรากฏว่า สิงคโปร์มีการขยายตัวสูงถึง 14.2 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสิงคโปร์คาดว่า เศรษฐกิจของตนที่ต้องพึ่งพารายได้จากการส่งออกและภาคบริการเป็นหลักจะมีการเติบโตในปีนี้เพียง 1-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หลังจากช่วงครึ่งปีแรก เศรษฐกิจของสิงคโปร์เติบโตเฉลี่ยได้เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ และในปี 2012 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ก็มีการเติบโตเพียง 1.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี