เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการสิงคโปร์เตรียมประกาศบังคับใช้มาตรการเข้มงวดด้านแรงงาน หลังชาวสิงคโปร์เริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้านการ “ไหลทะลัก” เข้าประเทศ ของบรรดาแรงงานต่างชาติ
รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนปีนี้เป็นต้นไป แรงงานต่างชาติที่ต้องการทำงานในสิงคโปร์จะต้องแสดงหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ว่าตนเองมีรายได้ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 1 แสนบาท) ต่อเดือน และมีความสามารถเพียงพอที่จะดูแลคู่สมรสรวมถึงบุตรของตน ตลอดระยะเวลาการพำนักในประเทศ
การกำหนดรายได้ขั้นต่ำของแรงงานต่างชาติที่เกือบ 1 แสนบาทต่อเดือนดังกล่าว ถือเป็นมาตรการเข้มงวดล่าสุดที่ทางการแดนลอดช่องกำหนดเพิ่มจากเดิม ที่เคยระบุว่ารายได้ขั้นต่ำของแรงงานต่างชาติต้องอยู่ที่ 2,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 70,000 บาท)
นอกจากนั้น คนงานต่างชาติจะไม่สามารถนำบุพการีและญาติที่เกิดจากการแต่งงานของตนเข้าประเทศได้อีกต่อไป ยกเว้นแต่การเดินทางเข้ามายังสิงคโปร์ เพื่อการท่องเที่ยวหรือทำกิจธุระในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี มาตรการคุมเข้มดังกล่าวไม่มีผลครอบคลุมถึงแรงงานต่างชาติที่นำสมาชิกในครอบครัวของตนเข้ามาอาศัยในสิงคโปร์อยู่ก่อนแล้ว
ท่าทีล่าสุดของทางการสิงคโปร์มีขึ้นหลังจากเกิดกระแสความไม่พอใจของชาวสิงคโปร์จำนวนมากต่อนโยบายรับคนเข้าเมือง เนื่องจากสาธารณชนเริ่มมองว่าจำนวนแรงงานต่างชาติเริ่มเพิ่มจำนวนอย่างไร้การควบคุมและส่งผลต่อเศรษฐกิจ รวมถึงการทำมาหาเลี้ยงชีพของชาวสิงคโปร์ที่เป็นเจ้าของประเทศตัวจริงเสียงจริง
นอกจากนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ยังเตรียมเสนอให้มีการเพิ่มโทษแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการรับจ้างแต่งงานเพื่อนำคนต่างด้าวเข้ามาในประเทศ โดยผู้ที่กระทำผิดอาจต้องรับโทษปรับเงินสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 500,000 บาท) และจำคุกนานถึง 10 ปี ส่วนผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเข้าประเทศ ต้องรับโทษปรับเงิน 8,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 199,900 บาท) และจำคุกอีก 5 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า แรงงานต่างชาติในสิงคโปร์เวลานี้มีสัดส่วนครอบคลุมถึงร้อยละ 44 หรือเกือบครึ่งหนึ่งของแรงงานในระบบเศรษฐกิจสิงคโปร์ทั้งหมด