เอเอฟพี - ชาวตูนิเซียกว่า 40,000 คน ออกมาชุมนุมประท้วงที่หน้าสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งชาติในกรุงตูนิส เมื่อวานนี้ (6) เพื่อขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของขบวนการมุสลิมสายกลาง “เอนนาห์ดา” เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้นำพรรคฝ่ายค้านถูกลอบสังหารอย่างอุกอาจ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
สภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งชาติ (เอเอ็นซี) ประกาศระงับการทำงานชั่วคราวจนกว่ารัฐบาลและฝ่ายค้านจะยอมหันหน้าเจรจาเพื่อสลายความขัดแย้ง ซึ่งมีชนวนมาจากการลอบสังหาร โมฮาเหม็ด บราห์มี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ผู้ประท้วงจำนวนมากชูภาพถ่ายของ บราห์มี และ โชกรี เบเลด ผู้นำฝ่ายค้านอีกคนซึ่งถูกลอบยิงในลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่า การตายของทั้งสองเป็นฝีมืออิสลามิสต์หัวรุนแรง และต่างตำหนิรัฐบาลเอนนาห์ดาที่ไม่สามารถควบคุมพวกหัวรุนแรงได้
การลอบสังหาร บราห์มี เป็นเหตุให้สมาชิกพรรคฝ่ายค้านบอยคอต เอเอ็นซี และยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลเอนนาห์ดาลาออกก่อนจะยอมเจรจายุติปัญหา แต่รัฐบาลก็ยืนยันเสียงแข็งเช่นกันว่า ไม่พร้อมรับเงื่อนไขลาออก
เบน จาฟาร์ ประธานเอเอ็นซี ออกมาตำหนิผู้นำการเมืองทุกฝ่ายที่ไม่ยอมโอนอ่อนแก่กันบ้าง ในยามที่ตูนิเซียยังต้องเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย
“ขณะที่ประเทศชาติกำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ผู้นำพรรคการเมืองกลับมุ่งสร้างความแตกแยก ระดมมวลชนมาประท้วง แทนที่จะช่วยกันสร้างความสามัคคี” จาฟาร์ กล่าว
เอเอ็นซี ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2011 หลังชาวตูนิเซียลุกฮือโค่นอดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ลงได้สำเร็จ ทว่าจนแล้วจนรอดผู้นำการเมืองก็ยังไม่สามารถเจรจาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ และเมื่อ เอเอ็นซี ประกาศหยุดงานก็ยิ่งทำให้เป้าหมายของนายกรัฐมนตรี อาลี ลาราเยธ ที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งใหม่ภายในวันที่ 23 ตุลาคม ก่อนถึงศึกเลือกตั้ง 17 ธันวาคมปีนี้ เป็นไปได้ยากขึ้น
หนังสือพิมพ์ ลา เพรสส์ ฉบับวานนี้ (6) อ้างถ้อยแถลงจาก ราเชด ฆันนูชี หัวหน้ากลุ่มเอนนาห์ดา ซึ่งระบุว่า รัฐบาลตูนิเซียจะไม่ลงจากอำนาจเพราะถูกผู้ประท้วงกดดัน ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลาราเยธ ก็กล่าวหาว่า การชุมนุมเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ไห้หน่วยงานความมั่นคงสามารถกวาดล้างเครือข่ายอัลกออิดะห์ได้เต็มที่