กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ ระบุว่า นอกจากในกรุงไคโรแล้ว ยังมีการปะทะกันระหว่างทหารกับผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมูฮัมมัด มุร์ซี ในเมืองท่าอเล็กซานเดรีย เมื่อวันศุกร์ อีก 9 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในการปะทะ 2 วัน เพิ่มเป็น 81 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 748 คน ซึ่งนับว่าเป็นการนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีมุร์ซี ถูกโค่นลงจากอำนาจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก กลุ่มผู้ประท้วงอ้างว่าทหารใช้กระสุนจริง แทนที่จะเป็นอาวุธปราบจลาจลตามปกติ
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยอียิปต์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ใช้เพียงแก๊สน้ำตา พร้อมกับวิงวอนประชาชนให้ระงับการชุมนุมและกลับบ้าน เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ความสงบ
ทางด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความกังวลใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมกับวิงวอนรัฐบาลเฉพาะกาลของอียิปต์ให้เคารพสิทธิในการแสดงออกโดยสงบของประชาชน
ขณะที่พรรคภราดรภาพมุสลิม ได้ออกมาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมกับตำหนิกองทัพว่าสังหารหมู่ประชาชนอย่างเลือดเย็น ทั้งที่ประชาชนเหล่านี้แสดงการคัดค้านการยึดอำนาจอย่างสงบและสันติ
เช่นเดียวกับ นายโมฮัมเหม็ด เอล บาราเด รองประธานาธิบดีเฉพาะกาล ก็ออกมาประณามกองทัพเช่นกันว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
สำหรับสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก กลุ่มผู้ประท้วงอ้างว่าทหารใช้กระสุนจริง แทนที่จะเป็นอาวุธปราบจลาจลตามปกติ
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยอียิปต์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ใช้เพียงแก๊สน้ำตา พร้อมกับวิงวอนประชาชนให้ระงับการชุมนุมและกลับบ้าน เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ความสงบ
ทางด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาแสดงความกังวลใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมกับวิงวอนรัฐบาลเฉพาะกาลของอียิปต์ให้เคารพสิทธิในการแสดงออกโดยสงบของประชาชน
ขณะที่พรรคภราดรภาพมุสลิม ได้ออกมาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมกับตำหนิกองทัพว่าสังหารหมู่ประชาชนอย่างเลือดเย็น ทั้งที่ประชาชนเหล่านี้แสดงการคัดค้านการยึดอำนาจอย่างสงบและสันติ
เช่นเดียวกับ นายโมฮัมเหม็ด เอล บาราเด รองประธานาธิบดีเฉพาะกาล ก็ออกมาประณามกองทัพเช่นกันว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุ