สมาชิกพรรค “มูกาเบ” อ้างคว้าชัยเลือกตั้งซิมบับเว แม้ผลทางการยังไม่ออก

เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - พันธมิตรทางการเมืองของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ประกาศชัยชนะในวันพฤหัสบดี (1) ขณะที่คู่แข่งสำคัญระบุการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาซิมบับเวที่จัดขึ้นเมื่อ 31 กรกฎาคมเต็มไปด้วย “ความอัปยศ”

รายงานข่าวซึ่งอ้างสมาชิกระดับแกนนำรายหนึ่งที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อของพรรคการเมือง Zimbabwe African National Union-Patriotic Front (ZANU-PF) ของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ออกมากล่าวอ้างว่า พรรคของผู้นำซิมบับเวประสบชัยชนะอย่างงดงามเหนือพรรค “Movement for Democratic Change” ของนายกรัฐมนตรีมอร์แกน สวานกิไร ทั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภา

อย่างไรก็ดี คำกล่าวอ้างดังกล่าวถูกปฏิเสธทันควันจากนายกรัฐมนตรีสวานกิไร ที่หวังจะยุติระบอบการปกครองยาวนานกว่า 33 ปีของมูกาเบ ผู้นำวัย 89 ปีลงให้ได้ โดยสวานกิไรระบุ การเลือกตั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยความอัปยศ และไม่ได้สะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชนชาวซิมบับเว ที่ปรารถนาจะหลุดพ้นจากความยากเข็ญทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าประเทศมาช้านาน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากทั้ง 2 ฝ่ายมีขึ้นในขณะที่การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นและยังคงไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจนำไปสู่การนองเลือดเช่นเดียวกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2008 ที่จบลงด้วยการเข้ามาไกล่เกลี่ยของบรรดาชาติเพื่อนบ้านในแอฟริกา และนำไปสู่การ “แชร์อำนาจ” ร่วมกันอย่างจำใจของมูกาเบ ในฐานะประธานาธิบดี และสวานกิไร ในฐานะนายกรัฐมนตรี

แม้การเลือกตั้งล่าสุดในซิมบับเวจะผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น แต่บรรดาองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมถึงเหล่านักการทูตตะวันตกต่างออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างในการจัดเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการมีรายชื่อผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วปรากฏในบัญชีผู้มีสิทธิลงคะแนน หรือการมีรายชื่อบุคคลซ้ำซ้อน แม้จะมีเสียงชื่นชมในแง่ของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ที่มีจำนวนมาก

ขณะที่ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของซิมบับเว คาดว่าจะประกาศได้ภายใน 5 วัน โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกโรงเตือนว่าอาจมีการจับกุม หากผู้ใดก็ตามออกมาเปิดเผยผลการเลือกตั้งก่อนเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ มูกาเบซึ่งเป็นผู้นำที่มีอายุมากที่สุดในทวีปแอฟริกาที่ครองอำนาจมาแล้ว 6 สมัยออกมาประกาศว่า เขาพร้อมสละอำนาจหากพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อสวานกิไร วัย 61 ปี แต่ในขณะเดียวกันก็ขู่จะดำเนินคดีกับสวานกิไรเช่นกันหากคู่แข่งสำคัญทางการเมืองรายนี้ พยายามประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งของฝ่ายตัวเอง