สื่อนอกชี้ “รมว.ท่องเที่ยวฯไทย” ยอมรับ “น้ำมันรั่วครั้งนี้กระทบท่องเที่ยวไทยอย่างหนัก”

รอยเตอร์/เอเอสทีวี - ในวันอังคาร(30) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย สมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ยอมรับ เหตุน้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ดกระทบกับการท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างแรง ด้านกลุ่มเอ็นจีโอและเจ้าหน้าที่รัฐต่างคาด คราบน้ำมันที่ตอนนี้อยู่ที่บริเวณหาดทรายของอ่าวพร้าวบนเกาะเสม็ดอาจลอยไปถึงชายฝั่งของแผ่นดินใหญ่ และมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการประมง ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะเสม็ดย้ายออกอย่างต่อเนื่อง

หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่ว นักท่องเที่ยวได้ทยอยเดินทางออกจากเกาะเสม็ด ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 230 กม.ตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่กองทัพเรือของไทยและอาสาสมัครสวมชุดกันอาวุธชีวภาพสีขาวพยามกำจัดคราบน้ำมันที่ติดอยู่ออกจากหาดทรายที่ครั้งหนึ่งเคยขาวสะอาด

ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย สมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ เปิดปากยอมรับกับสื่อถึงเหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้ว่าหนักกว่าที่เขาเคยคาดไว้มาก “ในขณะนี้เรากำลังช่วยประสานงานย้ายนักท่องเที่ยวไปสถานที่อื่นหากพวกเขาต้องการจะย้ายออกไป” และ “ผมรู้สึกเป็นกังวล ผมไม่เคยคาดคิดว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้มันจะกระทบกับการท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้”

น้ำมันดิบกว่า 50,000 ลิตรได้ไหลลงสู่อ่าวไทยจากท่อส่งน้ำมันที่รั่วห่างจากฝั่งราว 20 กม.ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ ในวันเสาร์(28)ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ไทย

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอลฯ ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนและได้เผยว่ามีการอุดรอยรั่วของท่อส่งน้ำมันเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้บริษัทกล่าวว่า กระบวนการทำความสะอาดคราบน้ำมันจะใช้เวลาอีกเพียงแค่ 2-3 วันเท่านั้น

จากการรั่วครั้งนี้ ถึงแม้ว่าหาดอ่าวพร้าวบนเกาะเสม็ดได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากหาดอื่นบนเกาะเสม็ดได้ทยอยย้ายออกอย่างต่อเนื่อง

“พวกเราพักอยู่ที่หาดอื่นบนเกาะเสม็ด แต่พวกเราไม่ขอเสี่ยงดีกว่า พวกเรากำลังจะเช็คเอาท์ออก” ดาเรีย โวลคอฟ นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเผยกับรอยเตอร์

เกาะเสม็ดได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำใส และน้ำทะเลไม่เย็นจนเกินไปเหมือนที่หาดในโลกตะวันตก เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงของไทย

“เกาะเสม็ดโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวรัสเซียและนักท่องเที่ยวจีน แต่พวกเขาคงจะไม่อยู่นานหากการทำความสะอาดคราบน้ำมันยังไม่เสร็จ” ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยต่อว่า เครื่องบินได้โปรยสารเคมีในรัศมี 1 กม. เหนือบริเวณที่มีน้ำมันรั่ว ในขณะที่อ่าวพร้าวในขณะนี้ปิดไม่อนุญาตให้เข้าพัก “ทางรัฐบาลกังวลว่าคราบน้ำมันอาจจะลอยไปขึ้นฝั่งที่ตัวเมือง” ภักดีหาญส์ เสริม

ทางด้านกลุ่มเอ็นจีโอได้ระดมตั้งคำถามถึงขอบเขตความเสียหายที่แท้จริง

“สิ่งที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงมกกว่าสิ่งที่ทางพีทีทีได้กล่าวไว้ในวันแรกของเหตุการณ์ เราสามารถคาดการณ์ได้ถึงความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการประมงและการตกค้างของสารพิษที่อยู่ในห่วงโซ่อาหาร” พลาย ภิรมณ์ ผู้จัดการโปรแกรมภูมิภาคเอชียตะวันออกเฉียงใต้เผยกับรอยเตอร์