เอเจนซี - องค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนให้กองกำลังกบฎจากกลุ่มเอ็ม 23 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกยอมส่งมอบอาวุธภายใน 48 ชั่วโมง มิเช่นนั้นจะใช้กำลังตักเตือน
กองกำลังทหารของยูเอ็นที่มีกำลังพลกว่า 3,000 นาย เตรียมยื่นมือเข้าช่วยกองทัพของรัฐบาลดีอาร์คองโก (สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก) จัดตั้งเขตพื้นที่ปลอดภัยขึ้นในเมืองโกมา ทางภาคตะวันออกของประเทศ
โดยได้มีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าทีสามารถใช้อาวุธหนักเข้าต่อต้านกลุ่มกบฎดังกล่าวที่ถูกระบุว่าได้เข่นฆ่าพลเมืองในพื้นที่โดยรอบเมืองโกมาจำนวนมาก
แถลงการณ์โดยผู้แทนสหประชาชาติในดีอาร์คองโกถูกถ่ายทอดไปยังทุกคนในเมืองโกมาและพื้นที่โดยรอบจนกระทั่งถึงเวลา 20.00 น. ของวันพฤหัสบดี ตามเวลามาตรฐานโลก (หรือราว 1.00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเป็นเวลากลุ่มกบฎจะต้องส่งมอบอาวุธมายังฐานปฏิบัติการของยูเอ็นในเมืองโกมา
ทางยูเอ็นกล่าวหาว่ากลุ่มกบฎเอ็ม 23 เป็นต้นเหตุให้พลเมืองได้รับบาดเจ็บและล้มตายด้วยการกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ในการปะทะกับกองทัพรัฐบาลครั้งล่าสุด ในเมืองมูตาโฮซึ่งอยู่ห่างจากโกมาไปทางเหนือราว 7 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
ยูเอ็นกล่าวว่าจำนวนประชาชนผู้พลัดถิ่นเพิ่มเป็น 70,000 คนแล้ว จากการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มกบฎและกองทัพเมื่อเร็วๆนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ลี้ภัยไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูกันดา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเรียกร้องให้ประเทศรวันดาหยุดให้การสนับสนุนกลุ่มกบฎเอ็ม 23 หลังมีข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นและเจ้าหน้าที่ของดีอาร์คองโกที่ระบุว่า รวันดาได้มีการจัดหาความช่วยเหลือทางทหารให้กับกลุ่มกบฎ ขณะที่ทางรวันดาก็ไม่ได้สนใจต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มกบฎเอ็ม 23 ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ถูกระบุว่าเป็นพวกนักรบที่มีเชื้อสายชนเผ่า "ทุตซี" เช่นเดียวกับบรรดาแกนนำในรัฐบาลของรวันดา