เจรจาสองเกาหลีเปิดแกซองล้มเหลวสิ้นเชิง โสมแดงขู่เปลี่ยนเป็นฐานทัพ

เอเอฟพี - การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ในความพยายามกลับมาเปิดดำเนินการเขตอุตสาหกรรมร่วมแกซอง ล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิงเมื่อวันพฤหัสบดี(25) ถึงขั้นที่ว่าสองชาติไม่สามารถตกลงกัน สำหรับกำหนดวันเวลานัดพบปะกันคราวต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้เปียงยางออกมาขู่ว่าจะปรับเปลี่ยนเขตอุตสาหกรรมนี้เป็นฐานทัพทหาร

ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันไปมาต่อการเป็นต้นตอของสิ่งที่เกาหลีเหนือเรียกว่าภาวะจนตรอกของการเจรจาที่มีเป้าหมายเปิดปฏิบัติการเขตอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในพรมแดนของเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีใต้เป็นผู้สนับสนุนเงินทุน

"มันน่าเสียใจอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือประกาศว่าการเจรจาต้องล่มลง" คิม ฮยุง-ซุค โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้บอก "หากพิจารณาจากผลการพูดคุยในวันนี้(25) รัฐบาลมองว่าชะตากรรมของเขตอุตสาหกรรมแกซองอยู่ในภาวะอันตรายอย่างยิ่ง" เขากล่าว

ก่อนหน้านี้นายปัก ชอล-ซู ตัวแทนเจรจาของเกาหลีเหนือ เตือนว่าเปียงยางอาจปรับเปลี่ยนเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นฐานทัพทางทหารหากว่าการเจรจาต้องล้มพับ "หากชะตากรรมของเขตอุตสาหกรรมแกซองต้องลงเอยเช่นนี้ กองทัพก็จะเข้ายึดมัน" ทั้งนี้เกาหลีเหนือต้องย้ายฐานทัพออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อเปิดทางสำหรับจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ที่เปิดดำเนินการในปี 2004

ปฏิบัติการต่างๆของเขตอุตสาหกรรมแกซองต้องหยุดชะงักลงในเดือนเมษายน หลังจากความตึงเครียดทางทหารระหว่างสองชาติคุกรุ่นถึงขีดสุด จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็พยายามหาทางออก และในเดือนกรกฎาคม เจ้าหน้าที่ของทั้งเปียงยางกับโซล นัดพบปะเจรจากันมาแล้วก่อนหน้านี้ถึง 5 รอบ แต่ก็ล้มเหลวในความพยายามลดความเห็นต่างต่อการกลับมาเปิดดำเนินการเขตอุตสาหกรรมซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรองดองระหว่างสองชาติอันสุดท้ายที่เหลืออยู่

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการเจรจาในวันพฤหัสบดี(25) น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของแกซอง โดยระบุมีความเป็นไปไดที่สองประเทศจะกระทบกระทั่งกันอีกรอบในเดือนหน้า ซึ่งทางเกาหลีใต้มีกำหนดซ้อมรบร่วมประจำปีกับกองทัพสหรัฐฯ ทั้งนี้รายละเอียดของการซ้อมรบ อุลชี ฟรีดอม การ์เดียน ยังไม่มีการแถลง แต่ปกติแล้วจะเริ่มต้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมและกินเวลานาน 10 วัน อันจะมีาทหารสหรัฐฯและเกาหลีใต้นับหมื่นนายเข้าร่วม

กระบวนการผลิตที่เขตอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปภายในพรมแดนเกาหลีเหนือราว 10 กิโลเมตร ต้องหยุดชะงักลง หลังเปียงยางถอนคนงานทั้งหมดกว่า 53,000 คน ออกจากโรงงาน 123 แห่งที่มีเจ้าของเป็นตนเกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายน ขณะที่การเจรจาหวังกลับมาเปิดดำเนินการที่ผ่านๆมานั้นล้วนถูกบดบังด้วยเหตุสาดโคลนกันไปมาว่าใครควรรับผิดชอบต่อเหตุปิดแกซอง

เกาหลีใต้เรียกร้องเกาหลีเหนือยอมรับว่าต้องเป็นผู้รับผิดชอบและทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรรับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก แต่ทางเปียงยางปฏิเสธและโตแย้งว่าฝ่ายตนเองถูกบีบจากท่าทีที่เป็นปรปักษ์และข่มขู่ของทางโซล โดยเฉพาะการซ้อมรบร่วมหลายต่อหลายครั้งกับสหรัฐฯ