เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รายงานล่าสุดชี้ อินโดนีเซียกลายเป็นดินแดนต้นกำเนิดของพวกนักเจาะระบบคอมพิวเตอร์ หรือ “แฮกเกอร์” ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากจีน หลังพบแฮกเกอร์แดนอิเหนาอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 21 เปอร์เซ็นต์ ของการโจมตีที่เกิดขึ้นทั่วโลกในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ เป็นรายงานของ “Akamai” บริษัทด้านเทคโนโลยีซึ่งมีฐานในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า พวกแฮกเกอร์จากอินโดนีเซีย ถือเป็นพวกที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการโจมตีบอตเน็ต ซึ่งมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นเป้าหมายสำคัญ และจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีแฮกเกอร์จากแดนอิเหนาอยู่เบื้องหลังในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ได้เพิ่มเป็นกว่า 21 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 นั้น สัดส่วนการโจมตีจากนักเจาะระบบอินโดนีเซียที่เกิดขึ้นทั่วโลกยังมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญ
ข้อมูลล่าสุดส่งผลให้อินโดนีเซียก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 2 รองจากจีน ในฐานะศูนย์กลางของการโจมตีไซเบอร์ของโลก โดยเหล่าแฮกเกอร์จากแดนมังกรยังคงรั้งอันดับ 1 ไว้ได้ด้วยสัดส่วนการโจมตีทางไซเบอร์ที่คิดเป็นกว่า 34 เปอร์เซ็นต์ของโลก ส่วนสหรัฐฯครองอันดับ 3 ของโลกในฐานะที่แฮกเกอร์ชาวอเมริกัน เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์คิดเป็นสัดส่วนราว 8.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตุรกีและรัสเซียรั้งอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม เหล่าแฮกเกอร์อินโดนีเซียได้นัดก่อการประท้วงครั้งใหญ่ หลังแฮกเกอร์แดนอิเหนารายหนึ่งถูกรัฐบาลจับกุม โดยพวกเขาแก้แค้นด้วยการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลจาการ์ตาจนเว็บไซต์หลายแห่งของหน่วยงานภาครัฐใช้การไม่ได้ ขณะที่ในเดือนมิถุนายน บริษัท ไมโครซอฟท์ รายงานว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีต้นตอจากอินโดนีเซียได้