เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสแถลงเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) ว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยจะยังตรึงกำลังพื้นที่ต่อไป “นานเท่าที่จำเป็น” ภายหลังที่เกิดเหตุรุนแรงเป็นคืนที่ 2 แล้วในเขตชานเมืองของกรุงปารีส ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไม่ให้สตรีสวมใส่นิกอบ หรือ ผ้าคลุมแบบปิดหน้าปิดตา
มานูเอิล วาลย์ กล่าวกับสถานีวิทยุฝรั่งเศสว่าเขายังวางกำลังตำรวจในพื้นต่อไปจนกว่าความสงบจะกลับคืนสู่เมืองตรัปป์ เมืองปริมณฑลซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส
ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คนในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (21) เนื่องจากพวกเขาพกกระสุนเป็นจำนวนมาก และบรรดาผู้ก่อจลาจลก็ได้จุดไฟเผารถราว 20 คันในตรัปป์และพื้นที่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เมื่อคืนยังสงบกว่าคืนวันเสาร์ (20) ที่มีวัยรุ่นราว 250 คนรวมตัวกันที่เมืองตรัปป์และพากันขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งก็ตอบโต้กลับไปด้วยแก๊สน้ำตา
เด็กชายวัย 14 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ดวงตาจากเหตุปะทะกัน ขณะที่ตำรวจหลายคนก็บาดเจ็บด้วยเช่นกัน
ความไม่สงบคราวนี้ปะทุขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (18) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นหญิงมุสลิมซึ่งสวมผ้าคลุมหน้า
ในระหว่างที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้น สามีของผู้หญิงคนดังกล่าวก็พุ่งเข้ามาและมีทีท่าว่าพยายามจะบีบคอตำรวจคนนั้นอย่างชัดเจน อัยการระบุ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มชาวมุสลิมกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ “ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง”
วาลย์กล่าวว่าเขาเคยไม่ติดใจสงสัย “แม้สักครั้ง” ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติต่อหญิงคนนั้นด้วยการให้เกียรติแล้ว ขณะที่เขากำลังตรวจค้นตัวเธออยู่
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2011 ฝรั่งเศสได้ออกกฎหมายห้ามมิให้สวมใส่ผ้าคลุมแบบปิดหน้าปิดตาซึ่งทำให้ชาวมุสลิมจำนวนมากรู้สึกโกรธแค้น
ผู้ฝ่าฝืนกฎจะต้องถูกระวางโทษด้วยการปรับไม่เกิน 150 ยูโร (ราว 6,200 บาท) หรือต้องถูกส่งไปอบรมเกี่ยวกับข้อบังคับที่พลเมืองต้องปฏิบัติ
เจ้าหน้าที่เผยว่ามีหญิงราว 300 คนถูกจับ เนื่องจากฝ่าฝืนกฎห้ามสวมผ้าคลุมหน้าในช่วงปีแรกที่บังคับใช้กฎหมาย
เหตุรุนแรงซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) เมื่อเจ้าหน้าที่หยุดตรวจหญิงคนหนึ่งซึ่งสวมใส่นิกอบที่อาร์ช็องเตย เมืองรอบนอก ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปารีส
ในเหตุครั้งนั้น ทำให้ฝูงชนที่โกรธแค้นพากันออกมาประท้วง และตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาและสาดกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุม