เอเอฟพี - ผู้โดยสาร 83 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สายการบินเอเชียนาแอร์ไลน์สตกกระแทกรันเวย์ที่สนามบินซานฟรานซิสโก เมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายนับล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก โบอิ้ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินลำดังกล่าว ทนายความเผยวานนี้ (16)
แม้จะยังสรุปไม่ได้ว่า อะไรคือต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดกับเที่ยวบิน 214 ของเอเชียนาแอร์ไลน์ แต่บริษัททนายความ ริบเบค ลอว์ ในนครชิคาโก ชี้ว่า จากรายงานเบื้องต้นเชื่อว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ระบบคันเร่งอัตโนมัติ (auto-throttle) ในเครื่องบินโบอิ้ง 777ทำงานขัดข้อง
นอกจากนี้ โบอิ้ง อาจต้องมีส่วนรับผิดชอบเรื่องการออกแบบเบาะลมที่ใช้อพยพผู้โดยสารยามฉุกเฉิน “เพราะทำให้ผู้โดยสารยิ่งได้รับบาดเจ็บหนักขึ้น และกีดขวางทางออกจากเครื่องบิน” ริบเบค ระบุ
บริษัทกฎหมายแห่งนี้เผยต่อว่า แม้แต่เข็มขัดนิรภัยบนตัวเครื่องก็อาจมีปัญหา เพราะตำรวจ “ต้องส่งมีดให้พนักงานประจำเครื่องบิน” ใช้ตัดเข็มขัด เพื่อช่วยผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในออกมา
กลุ่มผู้เสียหายร่วมกันฟ้องร้องต่อศาลนครชิคาโก ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของโบอิ้ง และอาจขยายผลไปถึงสายการบินเอเชียนาแอร์ไลน์ส ตลอดจนผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินอีกหลายราย “ซึ่งต้องมีส่วนรับผิดชอบกับหายนะครั้งนี้”
เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของเอเชียนาออกเดินทางจากนครเซี่ยงไฮ้ และแวะจอดรับผู้โดยสารที่กรุงโซล ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกำแพงกันคลื่นขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก จนทำให้เครื่องบินเสียการควบคุมและตกกระแทกพื้นไฟลุกท่วม เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วัยรุ่นสาวชาวจีนเสียชีวิต 3 ราย และมีผู้โดยสารกับลูกเรือบาดเจ็บอีกกว่า 180 คน
จาง หยวน ผู้โดยสารคนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและขาหัก เล่าว่า เหยื่อเที่ยวบินมรณะทุกคนควรจะออกมาปกป้องสิทธิ์ของตนเองทันที
“มันแย่มากที่เบาะลมถูกกางออกในตัวเครื่อง ทำให้พวกเราหนีออกทางประตูได้ลำบาก ทั้งที่เครื่องบินกำลังไฟไหม้” เธอกล่าว
“สามีของฉัน ลูกสาวฉัน และผู้โดยสารคนอื่นๆ คงไม่ต้องบาดเจ็บขนาดนี้ หากเบาะลมกับเข็มขัดนิรภัยไม่ขัดขวางเราไว้”
ริบเบค ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันจันทร์ (15) ขอให้ โบอิ้ง แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบและซ่อมบำรุงเครื่องบิน และจะขอเข้าถึงข้อมูลหลักฐานทุกอย่างที่พบในกระบวนการสอบสวนด้วย
การฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ถือว่า “สำคัญมาก” ต่อเหยื่อและครอบครัวผู้เสียหาย เพราะสนธิสัญญาระหว่างประเทศเป็นอุปสรรคมิให้ผู้ตรวจสอบความปลอดภัยของสหรัฐฯ สามารถระบุความผิดหรือความรับผิดของฝ่ายใดได้
“ครอบครัวผู้เสียหายจะไม่สามารถขอรับเงินชดเชยอย่างเป็นธรรมได้ จนกว่าศาลจะระบุความผิดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเสียก่อน” โมนิกา อาร์.เคลลี หัวหน้าทนายความฝ่ายการบินของ ริบเบค ระบุ