เจรจาฟื้นปฏิบัติการเขตอุตสาหกรรมแกซองเหลว สองชาติเกาหลีนัดหารือใหม่

เอเอฟพี - การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อวันพุธ(10) ล้มเหลวในความพยายามบรรลุข้อตกลงกลับมาเปิดเขตอุตสาหกรรมร่วมซึ่งถูกสร้างขึ้นในฐานะสัญลักษณ์แห่งความปรองดอง ด้วยเปียงยางกล่าวหาโซลไม่จริงใจ กระนั้นทั้งสองฝ่ายยังนัดหารือกันอีกรอบในสัปดาห์หน้า

เขตอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในพรมแดนของเกาหลีเหนือ เปิดปฏิบัติการมาตั้งแต่ปี 2004 แต่ต้องปิดตัวลงเมื่อ 3 เดือนก่อน ท่างกลางความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติที่เข้าสู่จุดวิกฤต

ณ การหารือที่ไม่พบเห็นบ่อยนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการสำหรับเปิดทำการเขตอุตสาหกรรมซึ่งมีแรงงานเกาหลีเหนือราว 53,000 คน ปฏิบัติงานตามโรงงานต่างๆ 123 แห่งที่มีชาวเกาหลีใต้เป็นเจ้าของ โดยส่วนใหญ่ผลิตสิ่งทอหรือไม่ก็สินค้าอุตสาหกรรมเบา

อย่างไรก็ตามในการเจรจาเมื่อวันพุธ(10) ทั้งสองฝ่ายล้มเหลวบรรลุข้อตกลงที่มั่นคงต่อการกลับมาเปิดดำเนินงานเขตอุตสาหกรรม แต่กระนั้นเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ จะกลับมาหารือกันอีกครั้งในวันจันทร์หน้า(15)

ฝ่ายโซลต้องการมารตรการป้องกันที่ชัดเจนจากเปียงยาง สำหรับหลีกเลี่ยงการปิดเขตอุตสาหกรรมแกซองฝ่ายเดียวของเกาหลีเหนือ เพื่อเขตอุตสาหกรรมแห่งนี้ยังดำเนินงานได้ต่อไปแม้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่คำขอดังกล่าวกลับเป็นยาขมของเกาหลีเหนือ ด้วยเสมือนหนึ่งพวกเขาต้องรับว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุปิดเขตอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา

"เราเห็นพ้องว่าเขตอุตสากรรมควรยังคงมีอยู่และต้องพัฒนาเพิ่มเติม" นายซู โฮ หัวหน้าทีมเจรจาของฝ่ายเกาหลีใต้บอกกับผู้สื่อข่าว "เกาหลีเหนืออยากให้มันกลับมาปิดทำการเร็วๆที่สุดเมื่อการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรแล้วเสร็จ แต่ทางเราชี้ว่าสถานการณ์แบบเดียวกันนี้อาจเกิดซ้ำขึ้นมาอีก หากไม่มีคำรับประกันใดๆอย่างหนักแน่นสำหรับหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ซ้ำรอย ดังนั้นเรื่องนี้จะเป็นประเด็นที่เราจะหารือร่วมกันในการประชุมครั้งหน้า"

ด้านเกาหนีเหนือบอกว่าพยายามอย่างจริงใจเพื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว แต่ทางเกาหลีใต้กลับยืนกรานอย่างไม่มีเหตุผลบ่ายเบี่ยงกล่าวโทษพวกเขาต่อเหตุปิดปฏิบัติการในเขตอุตสาหกรรม และแสดงเจตนาวางขวากนามขัดขวางแนวทางของการเจรจา ตามคำรายงานของสำนักข่าวแห่งรัฐเปียงยาง

ปฏิบัติการต่างๆในเขตอุตสาหกรรมแกซองมีอันต้องหยุดชะงักลง ไม่นานหลังจากเกาหลีเหนือสั่งห้ามเหล่าผู้จัดการโรงงานและเจ้าหน้าที่อื่นๆที่เป็นชาวเกาหลีใต้เข้าไปยังเขตอุสาหกรรมเมื่อวันที่ 3 เมษายน และจากนั้นราว 1 สัปดาห์ เปียงยาง ก็ถอนคนงานทั้งหมดออกมา โดยอ้างความตึงเครียดทางทหารและท่าทีที่เป็นปรปักษ์ของเกาหลีใต้

สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียดหนักในช่วง 3-4 เดือนก่อน หลังจากที่โสมแดงฝืนคำเตือนนานาชาติทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 จนถูกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงดาบคว่ำบาตรหนักกว่าเก่า ผู้นำเปียงยางตอบโต้บทลงโทษของยูเอ็นด้วยคำขู่เปิดสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์กับวอชิงตันและโซล ซึ่งทำให้สหรัฐฯ ต้องส่งทั้งเรือรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าไปซ้อมรบในเกาหลีใต้ เพื่อป้องปรามมิให้โสมแดงเหิมเกริมไปกว่านั้น