เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ตัดสินใจสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญมากเมื่อวานนี้ (7) เพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือน ด้วยการตกลงที่จะเปิดนิคมอุตสาหกรรม อันเป็นสัญลักษณ์สุดท้ายของความสมานฉันท์ระหว่าง 2 ชาติขึ้นอีกครั้ง
การทำข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังช่วงเวลาแห่งความไม่ลงรอยกันและการขู่จะทำสงครามโดยชาติโสมแดง ภายหลังเดือนกุมภาพันธ์ได้ออกมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ จนเป็นเหตุให้องค์การสหประชาชาติต้องประกาศคว่ำบาตรอย่างรุนแรงมากขึ้น ซึ่งบีบคั้นเศรษกิจที่ฝืดเคืองของเกาหลีเหนือให้ยากแค้นยิ่งขึ้นไปอีก
ในช่วงท้ายของการประชุมหารือนาน 15 ชั่วโมง ทั้งสองชาติได้ออกมาแถลงร่วมกันในวันอาทิตย์ (7) ว่าเห็นชอบที่จะให้บรรดาบริษัทของเกาหลีใต้กลับมาดำเนินกิจการที่นิคมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนอีกครั้ง เมื่อเงื่อนไขสุกงอมแล้ว
“เกาหลีใต้และเหนือจะอนุมัติให้บริษัทซึ่งประกอบธุรกิจที่นิคมแกซองกลับมาดำเนินกิจการใหม่อีกครั้งเมื่อ (พวกเขา) พร้อม” คำแถลงร่วมของ 2 ชาติระบุ
ทั้งนี้ ทั้ง 2ประเทศจะร่วมหารือกันอีกครั้งในวันพุธ (10) ที่นิคมอุตสาหกรรมแกซอง เพื่อพูดคุยกันถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินกิจการในพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงข้อเรียกร้องที่เกาหลีใต้ต้องการให้เกาหลีเหนือสัญญาว่าจะไม่ตัดสินใจเลิกกิจการเพียงฝ่ายเดียวอีก
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือดูเหมือนจะคิดว่าการทำตามข้อเรียกร้องข้อนี้เป็นเรื่องยาก เพราะเท่ากับว่าเปียงยางยอมรับข้อกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีการปิดนิคมแกซองในครั้งก่อน
หลังจากลงนามรับรองคำแถลงร่วม ซูห์ โฮ หัวหน้าคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ในการเจรจาครั้งล่าสุดนี้ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือดู “กระตือรือร้นมาก” ในการเจรจาเพื่อเปิดนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้นิคมแกซองเป็นแหล่งดึงดูดสกุลเงินแข็งอันมีค่าสำหรับประเทศคอมมิวนิสต์ที่ยากแค้นแห่งนี้
ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้จะได้รับอนุญาตให้ข้ามผ่านพรมแดนเพื่อตรวจสอบสภาพโรงงานของพวกเขาในนิคมแกซองได้ตั้งแต่วันพุธ (10)
ทว่ายังมีนักธุรกิจรายอื่นๆ แสดงความกังวลว่าเป็นเรื่องยากที่จะดึงผู้ซื้อหน้าเดิมที่ได้ทอดทิ้งพวกเขาไปในช่วงปิดกิจการ 3 เดือน
นอกจากนี้ บางบริษัทขู่ว่าจะถอนฐานการผลิตออกจากนิคมแกซอง โดยบ่นว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง 2 ชาติปรปักษ์
หลังจากที่เคยออกมาขู่ครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่หลายเดือนว่าจะเปิดสงครามและโจมตีเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา เปียงยางกลับมีท่าทีว่าต้องการร่วมเจรจากับเกาหลีใต้
นักวิเคราะห์ชี้ว่าเกาหลีเหนือดูเหมือนกำลังทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ด้วยการปรับปรุงสายสัมพันธ์ที่มีกับเกาหลีใต้ ก่อนที่จะต้องพบปะพูดคุยกับสหรัฐฯ โดยตรง
“การประชุมที่จะมีขึ้นในวันพุธ (10) จะเป็นตัวชี้วัดที่ดีว่า ทั้งสองชาติเกาหลีจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน จะยังดำเนินการปรึกษาหารือกันต่อไป หรือกลายเป็นการสร้างความตึงเครียด” ยาง มูจิน อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษากล่าว
นิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2004 ในพื้นที่ของเกาหลีเหนือที่อยู่ห่างจากชายแดนราว 10 กิโลเมตร เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของความร่วมมือระหว่าง 2 ชาติเกาหลี แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยปิดตัวลงเลยแม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีความสัมพันธ์แบบลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือ อ้างถึงความตึงเครียดทางการทหารและความมุ่งร้ายจากเกาหลีใต้ จึงได้ประกาศถอนแรงงานเกาหลีเหนือ 53,000 คนออกจากโรงงานเกาหลีใต้จำนวน 123 แห่ง เมื่อเดือนเมษายน เป็นผลให้เกาหลีใต้ออกมาตอบโต้ด้วยการสั่งถอนผู้จัดการของบริษัทราว 120 แห่งในต้นเดือนพฤษภาคม