เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยอมรับ พบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ด้านกงสุลรายหนึ่งของสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในประเทศกายอานาในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีการเรียกรับเงินหรือการขอมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เพื่อแลกกับการออก “วีซ่า” เข้าเมืองลุงแซม
คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (8) ยืนยันว่า ขณะนี้ทางกระทรวงฯกำลังตรวจสอบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากพบว่า เจ้าหน้าที่กงสุลอเมริกันรายดังกล่าวซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อมีความผิดจริงตามที่มีการร้องเรียน
ด้านมาร์ค เบนส์ชอป แห่งหนังสือพิมพ์กายอานา ออบเซอร์เวอร์ออกมาเปิดเผยว่า เขามีข้อมูลว่า ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลของสหรัฐฯรายนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์จากบรรดาอาชญากรทางเศรษฐกิจหลายรายรวมถึงพวกพ่อค้ายาเสพติด เพื่อแลกกับการออกวีซ่าเข้าสหรัฐฯอย่างถูกต้อง โดยค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่อเมริกันรายนี้จะได้รับอาจสูงถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.25 ล้านบาท) ต่อครั้ง
ขณะเดียวกัน หากผู้ที่ต้องการขอวีซ่ารายใดที่เป็นสตรีชาวกายอานา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลรายนี้ก็จะขอมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวเหล่านั้นเป็นการแลกเปลี่ยน โดยเจ้าหน้าที่ขี้ฉ้อรายนี้จะมีการนัดพบกับ “ลูกค้า” ของเขา ตามร้านอาหาร หรือบาร์ ในกรุงจอร์จทาวน์ เมืองหลวงของกายอานาเพื่อตกลงธุรกิจสกปรกดังกล่าว
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่นิรนามรายนี้ ได้ถูกเรียกตัวกลับไปยังมลรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯแล้ว ก่อนที่วาระในการดำรงตำแหน่งของเขาที่ประเทศกายอานาจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายนนี้
เมื่อ 13 ปีก่อน ทางการสหรัฐฯเคยดำเนินคดีกับนายโธมัส คาร์โรลล์ อดีตเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯในกายอานามาแล้ว หลังตรวจสอบพบว่า เขาขายวีซ่าเข้าสหรัฐฯให้กับชาวพื้นเมืองที่สนใจ ในสนนราคาครั้งละหลายพันดอลลาร์