xs
xsm
sm
md
lg

รายงานชี้ ญี่ปุ่นต้องเผชิญภัยคุกคามความมั่นคงสูงขึ้น ระบุ “จีน-โสมแดง” น่ากลัวสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กระทรวงป้องกันประเทศของญี่ปุ่นเผยรายงานฉบับล่าสุดในวันอังคาร (9) ซึ่งจัดทำขึ้นตามการร้องขอของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ และพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) โดยรายงานฉบับนี้ระบุว่าญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและเกาหลีเหนือ

เป็นที่คาดกันว่า เนื้อหาในรายงานฉบับนี้อาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีน และส่อเค้าอาจกลายเป็น “เชื้อไฟ” ทำให้ความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างรัฐบาลโตเกียวและปักกิ่งปะทุขึ้น หลังความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยังไม่หลุดพ้นจาก “ม่านหมอกแห่งความตึงเครียด” เกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนตะวันออก รวมถึง จุดยืนของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะที่ระบุว่า ญี่ปุ่นอาจไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องแสดงการ “ขอโทษอย่างพร่ำเพรื่อ” ต่อชาติเพื่อนบ้านสำหรับการกระทำของทหารญี่ปุ่นในช่วงมหาสงครามโลกครั้งที่ 2

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในขณะนี้ มีหลายประเด็นร้อน รวมถึงปัจจัยบ่อนทำลายสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงหลายประการอยู่รายล้อมญี่ปุ่น แต่ภัยคุกคามที่เด่นชัดที่สุดของญี่ปุ่น คือ การที่รัฐบาลจีนกำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนดุลแห่งอำนาจในภูมิภาคด้วยการใช้แสนยานุภาพทางทหารของตนเป็นเครื่องมือ โดยไม่ใส่ใจหลักการของกฏหมายระหว่างประเทศ เห็นได้จากกิจกรรมอันน่าผิดหวังหลายอย่างของรัฐบาลปักกิ่ง ที่มีการจงใจรุกล้ำน่านน้ำและละเมิดน่านฟ้าของญี่ปุ่นอยู่เป็นระยะในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากจีนแล้ว รายงานของกระทรวงป้องกันประเทศของญี่ปุ่นยังชี้ว่า เกาหลีเหนือคืออีกประเทศหนึ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาหลีเหนือในยุคของคิม จอง อึน ที่มีการแสดงความก้าวร้าวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การทดสอบขีปนาวุธในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตามมาด้วยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 3 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นสมควรเป็นกังวลต่อความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสงครามของเกาหลีเหนือ ที่กำลังขยับเข้าใกล้ความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลติดหัวรบนิวเคลียร์ทุกขณะ โดยหากเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธแบบข้ามทวีปตามกำหนดในเดือนธันวาคมนี้ ย่อมหมายความว่า รัฐบาลโสมแดงมีขีดความสามารถในการทำลายทุกเป้าหมายในญี่ปุ่น รวมถึง สามารถโจมตีพื้นที่ภาคกลางและชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯได้ และจะทำให้ความมั่นคงของญี่ปุ่นถูกท้าทายอย่างร้ายแรง

รายงานดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นหลังจากที่อาเบะ ได้หวนคืนสู่อำนาจเป็นคำรบที่ 2 ในเดือนธันวาคมปีก่อน หลังจากที่เคยครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีแดนปลาดิบมาแล้วครั้งหนึ่งในระหว่างปี 2006-2007 และการกลับมาของอาเบะและพรรคแอลดีพีคราวนี้มีการส่งสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลอาเบะต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่นควบคู่ไปกับการเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหาร รวมถึง พยายามผลักดันให้มีการทบทวนความเหมาะสมของรัฐธรรมนูญเชิงสันติของประเทศที่ใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกมองว่าเป็น "อุปสรรคสำคัญ" ที่ขัดขวางการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารให้เข้มแข็ง

อย่างไรก็ดี รายงานฉบับนี้สรุปว่า แม้การเข้ามาของรัฐบาลอาเบะจะส่งผลให้ญี่ปุ่นเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีในปีนี้ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับงบประมาณทางทหารของจีนที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าตัวในช่วงเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า ถึงเวลาแล้วที่ญี่ปุ่นต้องเร่งหาทางรับมือกับภัยคุกคามจากจีนรวมถึงเกาหลีเหนืออย่างมีประสิทธิภาพ



กำลังโหลดความคิดเห็น