สถิติเผย “คนชราญี่ปุ่น” มีแนวโน้มเป็น “หัวขโมย” เพิ่มขึ้น

เอเอฟพี - ผู้สูงอายุที่ถูกจับฐานขโมยของจากร้านค้าในกรุงโตเกียวมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนแซงหน้าหัวขโมยหนุ่มสาวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา รายงานเผยวันนี้ (8)

จากสถิติปีที่แล้วพบว่า 1 ใน 4 ของผู้ที่ถูกจับฐานขโมยสินค้าในกรุงโตเกียวมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ขณะที่หลายฝ่ายเตือนว่าผู้สูงอายุกำลังถูกทอดทิ้งมากขึ้นทุกวัน

“แม้ในภาพรวมจะมีคนถูกจับฐานลักขโมยลดลง แต่กลับพบว่าผู้สูงอายุประพฤติตัวเป็นหัวขโมยมากขึ้น” โฆษกตำรวจกรุงโตเกียวแถลง

“จากการสำรวจพบว่า ผู้สูงอายุที่ขโมยสินค้าส่วนใหญ่จะอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีเพื่อนคุย และไม่มีงานอดิเรกทำ”

ในปี 2012 มีพลเมืองญี่ปุ่นอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปถูกจับฐานลักขโมยถึง 3,321 คน หรือร้อยละ 24.5 ของจำนวนหัวขโมยทั้งหมดที่ถูกจับได้ ส่วนวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปีลงไปคิดเป็นร้อยละ 23.6 หรือราวๆ 3,195 คน

หนังสือพิมพ์ไมนิจิชิมบุนรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ และพบว่าผู้สูงอายุญี่ปุ่นมีแนวโน้มเป็นขโมยมากกว่าคนหนุ่มสาว

ญี่ปุ่นมีประชากรราว 128 ล้านคน และ 1 ใน 4 มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ขณะที่อัตราการเกิดอยู่ที่ 1.39 ต่อสตรี 1 คน ซึ่งถือว่าต่ำเป็นอันดับท้ายๆของโลก

ข่าวการพบศพผู้สูงอายุถูกทิ้งอยู่ในบ้านโดยไม่มีผู้ใดรู้เห็นหลายสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งหลายเดือน มีปรากฏตามสื่อญี่ปุ่นอยู่เสมอ ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าปรากฏการณ์เช่นนี้คือผลพวงจากความเป็นสมัยใหม่ ซึ่งทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวลดน้อยลง

ผลสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์แล้วพบว่า ปัจจุบันมีสตรีสูงวัย 3.5 ล้านคน และชายสูงวัยอีก 1.4 ล้านคน ต้องอาศัยอยู่ตัวคนเดียวโดยปราศจากลูกหลานดูแล