ฉีกหน้ามะกัน! “เวเนซุเอลา” อนุญาตให้ “เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน” ลี้ภัยในประเทศ

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ประกาศอนุญาตให้ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงโปรแกรมสอดแนมของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ(เอ็นเอสเอ) เดินทางมาลี้ภัยในประเทศ วานนี้(5) ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจวอชิงตันที่พยายามกดดันให้ทุกประเทศจับกุมและส่งตัว สโนว์เดน กลับสหรัฐฯ

“ในนามแห่งเกียรติยศของอเมริกา ผมตัดสินใจให้ที่ลี้ภัยตามหลักมนุษยธรรมแก่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน” มาดูโร กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสวนสนามของกองทัพ เนื่องในโอกาสครบรอบวันประกาศเอกราชของเวเนซุเอลา

“เขาเป็นเพียงคนหนุ่มที่ต้องการพูดความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของสหรัฐฯ ที่เฝ้าสอดแนมคนทั่วโลก”

อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ วัย 30 ปี เดินทางจากฮ่องกงมาถึงรัสเซียตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน และยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่เชื่อมต่อเครื่องบิน (transit) ของสนามบินเชเรเมตีเยโว กรุงมอสโก โดยเจ้าหน้าที่รัสเซียชี้ว่า พื้นที่ทรานสิตถือเป็นดินแดนที่เป็นกลาง และ สโนว์เดน จะถือว่าเหยียบแผ่นดินรัสเซียได้ก็ต่อเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจาก สโนว์เดน และแม้ว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของ มาดูโร ก็ยังไม่แน่ว่าจะเดินทางไปถึงเวเนซุเอลาได้โดยไม่ถูกขัดขวางหรือไม่

ปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากมอสโกสู่การากัส และผู้โดยสารจากรัสเซียที่จะเดินทางไปเวเนซุเอลาจะต้องเปลี่ยนเครื่องบินที่คิวบา ซึ่งก็ยังไม่แน่ว่า ทางการคิวบาจะยินยอมให้ สโนว์เดน เดินทางต่อไปกรุงการากัสหรือไม่

จากกรณีที่เครื่องบินโดยสารของประธานาธิบดีโบลิเวียถูกฝรั่งเศส, โปรตุเกส และอิตาลีปฏิเสธไม่ให้เข้าน่านฟ้า จนต้องเลี่ยงไปลงจอดที่กรุงเวียนนา เพียงเพราะมีข่าวลือว่า สโนว์เดน ร่วมเดินทางมาด้วยนั้น ยิ่งแสดงให้เห็นว่า การเดินทางผ่านยุโรปของ สโนว์เดน จะต้องมีอุปสรรคอย่างแน่นอน

รัฐบาลรัสเซียเริ่มแสดงความอึกอัดใจมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการที่ สโนว์เดน ยังคงกบดานอยู่ในมอสโก โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า ในเมื่อ สโนว์เดน ไม่ได้ทำเรื่องขอลี้ภัยในรัสเซีย ก็ต้องตัดสินใจเสียทีว่าจะเดินทางต่อไปที่ไหน เพราะยิ่งเขาหลบอยู่ในรัสเซียนานเท่าใด ก็ยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับวอชิงตันมากขึ้นเท่านั้น

ล่าสุด สหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อการที่เวเนซุเอลาอนุมัติให้ สโนว์เดน ลี้ภัย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลนิคารากัวยืนยันว่า ได้รับคำร้องขอลี้ภัยจาก สโนว์เดน แล้ว และอาจจะอนุมัติตามคำขอ “หากสถานการณ์เอื้ออำนวย”