เอเอฟพี - ชายฉกรรจ์ไม่ทราบกลุ่มพกอาวุธปืนกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมสนับสนุนประธานาธิบดี โมฮาเหม็ด มอร์ซี แห่งอียิปต์ ใกล้กับมหาวิทยาไคโร ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 16 ราย บาดเจ็บอีกราว 200 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์แถลงวันนี้(3)
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอียิปต์รายงานถ้อยแถลงจากกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่า “ประชาชนผู้สนับสนุนประธานาธิบดี มอร์ซี ถูกยิงเสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บอีกราว 200 คน ใกล้กับมหาวิทยาลัยไคโร”
มอสตาฟา อับเดลนาสเซอร์ หนึ่งในผู้สนับสนุนประธานาธิบดีสายอิสลามิสต์ เล่าว่า “พวกอันธพาลใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่พวกเรา” และตัวเขาเองได้หามร่างชายคนหนึ่งซึ่งถูกยิงเข้าที่ศีรษะไปส่งโรงพยาบาล
แหล่งข่าวการแพทย์เผยว่า เมื่อวานนี้(2) ยังเกิดการปะทะระหว่างผู้สนับสนุนและต่อต้าน มอร์ซี ที่ย่านกีเซห์ในกรุงไคโร จนมีคนเสียชีวิต 7 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแจ้งว่า ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นที่ย่านเฮลวันในกรุงไคโร รวมถึงในจังหวัดเบเฮราทางตอนเหนือของอียิปต์
ชาวอียิปต์ที่เอือมระอากับการปกครองโดยผู้นำสายอิสลามิสต์ยังคงทยอยหลั่งไหลมาชุมนุมบนท้องถนนทั่วกรุงไคโร วานนี้(2) เพื่อกดดันให้ มอร์ซี ยอมลาออก หลังจากที่กองทัพได้ยื่นเงื่อนไขให้รัฐบาลปฏิบัติตามเสียงเรียกร้องของปวงชน มิเช่นนั้นก็จะมีมาตรการคลี่คลายวิกฤตการเมืองเสียเอง
อย่างไรก็ตาม มอร์ซี ประกาศวานนี้(2)ว่าจะไม่ลงจากตำแหน่ง เพราะถือว่าตนเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีเมื่อ 1 ปีก่อน และตั้งใจจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แม้จะถูกขบวนการตามารอด (Tamarod) ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้าน ระดมพลเมืองนับล้านออกมาขับไล่ก็ตาม
จากถ้อยแถลงซึ่งถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ มอร์ซี กล่าวเตือนว่า หากฝ่ายต่อต้านไม่ยอมรับผู้นำประเทศที่มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญเช่นเขา ก็จะนำไปสู่เหตุนองเลือดในที่สุด
มอร์ซี ไม่ได้เอ่ยถึงเส้นตาย 48 ชั่วโมงที่กองทัพขีดให้เขาต้องตอบสนองข้อเรียกร้องของประชาชน ซึ่งจะครบกำหนดแล้วในวันนี้(3) แต่ได้โพสข้อความผ่านทวิตเตอร์ขอร้องให้กองทัพประกาศยกเลิกเส้นตายดังกล่าวเสีย และเตือนว่า เขาจะไม่อดทนกับฝ่ายใดก็ตามที่พยายามละเมิดรัฐธรรมนูญ
“ประธานาธิบดี มอร์ซี ยืนยันในความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของท่าน และปฏิเสธฝ่ายใดก็ตามที่คิดจะล่วงละเมิดความชอบธรรมดังกล่าว... ท่านขอให้ให้กองทัพถอนคำเตือนเสีย และจะไม่ยอมรับคำสั่งจากใคร ไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศหรือนอกประเทศก็ตาม”
มอร์ซี อ้างว่า พรรคพวกของอดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ซึ่งถูกโค่นอำนาจไปเมื่อปี 2011 อยู่เบื้องหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของเขา และตนพร้อมที่จะ “สละชีวิต” เพื่อปกป้องอำนาจอันชอบธรรม เช่นเดียวกับแกนนำกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) ที่ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเตรียมอุทิศชีวิตตนเอง เพื่อป้องกันการก่อรัฐประหาร