เอเอฟพี - ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งของอินเดีย ถูกปลดกลางอากาศ หลังก่อเรื่องฉาวขี่คอผู้ประสบภัยรายงานข่าวน้ำท่วมใหญ่ทางเหนือของประเทศ พฤติกรรมที่เรียกเสียงตำหนิอย่างดุเดือดจากประชาชนทั่วไป จากการเปิดเผยของผู้อำนวยการสถานีเมื่อวันพุธ (26)
“สิ่งที่เขาทำถือว่าไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง คุณไม่สามารถขี่หลังใครรายงานข่าวได้ เราไล่เขาออกแล้วตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (25)” นิสาน ชาตุระเวดี ผู้อำนวยการสถานีนิวส์ เอกซ์เพรส ระบุ
การรายงานข่าวอุกทกภัยและดินถล่มในรัฐอุตตรประเทศแบบแปลกพิศดารของนายนารายัน ปาร์ไกเอน จุดชนวนขุ่นเคืองแก่ประชาชน หลังวิดีโอที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเผยให้เห็นว่าเขาขี่คอชาวบ้านผู้ประสบภัยรายหนึ่งขณะรายงานข่าวในพื้นที่ประสบภัย โดยชาวบ้านคนนั้นต้องแบกน้ำหนักยืนเซไปเซมาท่ามกลางระดับน้ำที่สูงถึงหัวเข่า
ผู้สื่อข่าวรายนี้อ้างว่า ชาวบ้านคนดังกล่าวเสนอแบกเขาขึ้นบ่าเอง “ชายคนนี้ต้องการแสดงความเคารพต่อผม เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีแขกระดับสื่อมวลชนอย่างผมเข้ามาเยี่ยมเยียนบ้านของเขา” นายปาร์ไกเอน ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์สื่อมวลชนอินเดีย “ดังนั้นตอนข้ามแม่น้ำ เขาจึงเสนอให้ความช่วยเหลือกับผม ระหว่างที่ผมยังต้องรายงานข่าวอยู่”
ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์นิวส์ เอกซ์เพรส ระบุว่า ทางสถานีไม่ได้ออกอากาศเทปนี้เพราะพบว่ามันน่ารังเกียจอย่างยิ่ง โดยเวลานี้กำลังสืบสวนว่าใครนำวิดีโอดังกล่าวไปโพสต์ลงบนยูทิวบ์ แม้รายงานข่าวก่อนหน้านี้อ้างว่าเป็นฝีมือของตากล้องที่บันทึกภาพการรายงานข่าวนั่นเอง “เขาส่งคลิปมาให้เรา เราช็อกมากที่เห็นเขาขี่คอคนยากจน คุณจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของประชาชน ไม่ใช่ไปขี่คอเขา”
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์รายนี้เผยด้วยว่า ก่อนหน้ามีคำสั่งปลดได้เรียกตัวนายนารายันมายังสำนักงานของสถานีเพื่อให้โอกาสชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตนเองและอธิบายว่าอะไรดลใจให้เขาทำแบบนั้น “เขาบอกคิดว่าน่าจะทำแบบนี้ได้ แต่นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้ใช้สามัญสำนึกขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษน์เป็นตัวตัดสินเลย”
ขณะเดียวกัน ทางสถานีมีแผนโพสต์คลิปวิดีโออันก่อความขุ่นเคืองนี้ลงบนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อย้ำว่าทางสถานีไม่สนับสนุนพฤติกรรมเช่นนี้ของผู้สื่อข่าว “ผู้สื่อข่าวก็เสมือนทูตของสถานี เราต้องขออภัยและขอยืนยันว่าทางสถานีไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
จนถึงตอนนี้มีประชาชนอย่างน้อยๆ 1,000 รายที่ต้องสังเวยชีวิตในเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งพระผู้เป็นเจ้า” เนื่องจากมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดูตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก
เฮลิคอปเตอร์และกำลังพลของกองทัพเข้าช่วยอพยพผู้คนหลายหมื่นคนแล้ว แต่ก็มีนักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวอีกหลายพันคนที่ติดค้างตามจุดต่างๆ ทั่วรัฐ นับตั้งแต่เจอฝนฤดูมรสุมถล่มเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน