เอเอฟพี - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เสนอแนวทางลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก เมื่อวานนี้(25) พร้อมตำหนิพวกที่เชื่อในทฤษฎี “โลกแบน” ที่ทำตัวเป็นอุปสรรคต่อความพยายามต่อสู้ปัญหาสภาพอากาศในสภาคองเกรสมาโดยตลอด
ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องข้อจำกัดใหม่ๆต่อโรงงานไฟฟ้าทั้งที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบันและที่จะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันไปใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนเชิญชวนให้ทั่วโลกร่วมมือกันลดปัญหาโลกร้อน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า แผนของ โอบามา จะช่วยให้สหรัฐฯลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 17% จากสถิติเมื่อปี 2005 ภายในปี 2020 ตามที่ โอบามา ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ระหว่างการประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (UNFCCC) ณ กรุงโคเปนเฮเกน เมื่อปี 2009
โอบามา ระบุว่า ชาวอเมริกันทั่วประเทศกำลังได้รับผลกระทบจาก “ความนิ่งเฉย” ต่อปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยปี 2012 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และทำให้พื้นที่การเกษตรแถบตอนกลางของสหรัฐฯประสบภัยแล้งหนัก
“ในฐานะประธานาธิบดี, พ่อ และชาวอเมริกันคนหนึ่ง ผมขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า เราต้องแก้ปัญหาอย่างจริงจังแล้ว” โอบามา กล่าวในสุนทรพจน์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(25) ณ มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ทั้งยังแสดงความเหนื่อยหน่ายต่อพวกที่ไม่เชื่อเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และไม่ยอมรับว่าการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกร้อนขึ้น
“เราไม่มีเวลาสำหรับจัดประชุมสมาคมโลกแบน (Flat Earth)... การเอาหัวฝังทรายอาจทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย แต่คุณหนีพายุที่กำลังจะมาไม่พ้นหรอก” โอบามา กล่าว
โอบามา ยังเอ่ยถึงโครงการสร้างท่อส่งน้ำมัน คีย์สโตน เอ็กซ์แอล เชื่อมระหว่างแคนาดาไปยังชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ซึ่งนักอนุรักษ์พากันคัดค้าน โดยระบุว่า หากโครงการซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยกระทรวงการต่างประเทศจะยิ่งกระตุ้นภาวะโลกร้อน ก็ไม่สมควรอนุมัติให้ทำ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในรายงานฉบับร่างว่า โครงการสร้างท่อส่งน้ำมัน คีย์สโตน เอ็กซ์แอล ที่ล่าช้ามานาน ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก และหลายฝ่ายก็คาดว่า โอบามา น่าจะยอมไฟเขียวในที่สุด ขณะที่นักอนุรักษ์ส่วนใหญ่เตือนว่า โครงการดังกล่าวจะกระตุ้นให้มีการขุดทรายน้ำมัน (tar sands) ในรัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดา ซึ่งจะเป็นกระบวนการผลิตน้ำมันที่ “สกปรกที่สุด” ในความเห็นของพวกเขา
แผนที่ โอบามา เสนอประกอบด้วยหลัก 3 ประการ ได้แก่ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนในสหรัฐฯ, บรรเทาผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และโน้มน้าวให้นานาชาติร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
โอบามา ประกาศจะไม่สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในต่างประเทศ และจะหารือนวัตกรรมใหม่ๆกับประเทศผู้ปลดปล่อยคาร์บอนรายใหญ่อย่างจีนและอินเดีย
ผู้นำสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมร่างกฎระเบียบใหม่ซึ่งจะใช้เป็นมาตรฐานการปลดปล่อยคาร์บอนสำหรับโรงไฟฟ้าทุกแห่ง และยังเตรียมวงเงินกู้ยืม 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อสนับสนุนการลงทุนในด้านเทคโนโลยีพลังงาน ทั้งยังตั้งเป้าหมายให้โรงงานอุตสาหกรรม, อาคารธุรกิจ และที่อยู่อาศัย ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20%
โอบามา มีแผนที่จะลดการปลดปล่อยคาร์บอนลง 3,000 ล้านเมตริกตัน ภายในปี 2030 หรือกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณคาร์บอนที่ถูกปลดปล่อยโดยภาคพลังงานของสหรัฐฯในปัจจุบัน
กลุ่มรณรงค์ลดปัญหาสภาพอากาศและนักอนุรักษ์ต่างแสดงความชื่นชมในสิ่ง โอบามา เสนอ ขณะที่ฝ่ายต่อต้านระบุว่า วิธีการเช่นนี้จะทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินต้องปิดตัวลง และประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ซึ่งกลุ่มที่จะได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก็คือคนยากจน