รอยเตอร์ - สองผู้เชี่ยวชาญการแยกเสียงผู้ซึ่งให้ความเห็นว่า เทรวอน มาร์ติน วัยรุ่นผิวสีชาวฟลอริดาที่ปราศจากอาวุธร้องตะโกนขอความช่วยเหลือก่อนที่เขาจะโดนสังหารด้วยปืนโดยจอร์จ ซิมเมอร์แมน อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยประจำชุมชน ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาคดีนี้ขึ้นให้การ
คำสั่งจากผู้พิพากษาเดบรา เนลสัน ออกมาในวันเสาร์ (22) ที่ผ่านมา เป็นอุปสรรคที่สำคัญก่อนการเปิดแถลงคดีในชั้นศาลของคดีหมายเลข 2012-001083-CFA ที่เป็นที่โจษขานไปทั่วสหรัฐฯ ที่จะเริ่มในวันจันทร์ (24) นี้ ที่ศาลเซมิโนล์ เคาน์ตี เมืองแซนฟอร์ด รัฐฟลอริดา
อัยการได้เรียกผู้เชี่ยวขาญด้านการจำแนกเสียงเพื่อให้การในชั้นศาล เกี่ยวกับเสียงที่บันทึกจากชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุโทร.แจ้งตำรวจ 911 ซึ่งจากเสียงที่ตรวจสอบได้พบว่ามีเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นเสียงแวดล้อม ได้ยินอย่างชัดเจนก่อนที่เหยื่อจะโดนยิงจนเสียชีวิต
หลักฐานเสียงตะโกนนี้สำคัญมาก เพราะจะสามารถชี้ชัดว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ที่ใช้ความรุนแรงก่อนในคืนเกิดเหตุของเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ทางครอบครัวจำเลย ตระกูลซิมเมอร์แมน และผู้ให้การสนับสนุนต่างอ้างว่าเสียงร้องตะโกนนั้นเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของจอร์จ ซิมเมอร์แมน ผู้ถูกกล่าวหา ในขณะที่ทางฝั่งครอบครัวมาร์ตินยืนยันว่าเสียงนั้นเป็นของลูกชายของพวกเขา
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจาก FBI กล่าวว่า การวิเคราะห์เสียงที่ได้รับการอัดไว้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 911 ปีที่แล้วนั้นไม่ชัดเจนพอที่จะยืนยันได้ว่าเป็นของใคร
เดวิด วีนสไตน์ ทนายชาวฟลอริดาและอดีตอัยการ ให้ความเห็นว่า การตัดสินใจของผู้พิพากษาเนลสันที่ไม่อนุญาตการให้การของผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงในครั้งนี้ เป็นชัยชนะทางฝั่งทีมกฎหมายของทนายจำเลยซิมเมอร์แมน
“ตอนนี้จะไม่มีพยานที่สามารถ “แยกแยะ” เสียงของบุคคล” วีนสไตน์กล่าว “แต่ละฝ่ายสามารถอ้างได้ว่าเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือนั้นเป็นของฝ่ายนั้น และคณะลูกขุนต้องตัดสินใจเองว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นของใคร”
อัยการกล่าวว่า ซิมเมอร์แมนสะกดรอยตามมาร์ตินและในที่สุดก็ประจันหน้ากับเขา ถึงแม้ว่าตำรวจท้องที่ที่กำลังออกตรวจห้ามเขาไม่ให้ตามหนุ่มผิวสีอายุ 17 ปีผู้นี้ ซิมเมอร์แมนอายุ 29 ได้ให้การว่าทั้งเขาและมาร์ตินมีเรื่องกัน และในที่สุดเขาได้ลั่นไกใส่มาร์ตินเพราะกลัวว่าตัวเองอาจจะไม่มีชีวิตรอดจากความขัดแย้ง
คณะลูกขุนทั้งหมดที่เป็นผู้หญิงต้องตัดสินใจว่าซิมเมอร์แมนมีความผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาหรือไม่ ซึ่งข้อหานี้มีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ในขณะที่ซิมเมอร์แมนปฏิเสธข้อกล่าวหา
แต่ทว่าผู้พิพากษาเนลสันแย้งว่า จากคำสั่ง 12 แผ่นของเธอนั้นไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้เสียงที่ตำรวจ 911 อัดไว้ในชั้นศาล หัวหน้าทนายความจำเลย มาร์ค โอ. มารา เรียกเสียงบันทึกนี้ว่าเป็น “วัตถุพยานที่สำคัญที่สุดสำหรับคดีนี้” อย่างไรก็ตาม เขาได้พยายามที่จะไม่ให้มีการใช้ผู้เชี่ยวชาญจำแนกเสียงขึ้นให้การ เหตุเพราะวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ใช้พิสูจน์นั้นยังเป็นที่น่ากังขาทางด้านวิทยาศาสตร์
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการจำแนกเสียงที่ฝ่ายซิมเมอร์แมนหามานั้น อ้างว่าวิธีการจำแนกเสียงเพื่อหาว่าเป็นเสียงของใครนั้นใช้ไม่ได้กับเสียงที่เป็นเสียงแวดล้อมในไฟล์เสียง
ในวันศุกร์ (21) ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาเนลสันได้ปฏิเสธคำขอของทนายฝ่ายจำเลยที่ไม่อนุญาตให้มีการใช้ “บางคำ” หรือ “บางวลี” ในการเปิดแถลงคดีของอัยการ
เธออนุญาตให้อัยการอธิบายได้ว่าซิมเมอร์แมนที่เป็นละตินอเมริกันใช้วิธี “ตรวจสอบประวัติ” หรือ profile ผู้เคราะห์ร้ายมาร์ติน แต่ไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า “การตรวจประวัติโดยมีพื้นฐานจากสีผิว” หรือ racial profile