เอเอฟพี - มลรัฐนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี(20) สั่งปรับเงินแบงค์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ธนาคารใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว7,800 ล้านบาท) ฐานลอบทำธุรกรรมทางการเงินกับอิหร่าน ซูดานและเมียนมาร์ อันละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกา
สำนักงานบริการการเงิน (ดีเอฟเอส) ของรัฐนิวยอร์ก ระบุว่าช่วงระหว่างปี 2002 ถึง 2007 ทาง มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ได้ดำเนินการโอนเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านสาขาธนาคารในนิวยอร์ก เข้าบัญชีของรัฐหรือเอกชนในอิหร่าน ซูดานและเมียนมาร์ ในนั้นรวมถึงบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในบัญชีดำของกระทรวงการคลังสหรัฐฯด้วย
ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการห้ามธนาคารต่างๆทำธุรกรรรมทางการเงินหรือโอนย้ายเงินไปยัง 3 ประเทศข้างต้น ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ แต่ทางดีเอฟเอส เผยว่าพนักงานด้านระบบของธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ได้ปิดซ่อนเรื่องนี้ด้วยการลบข้อมูลการโอนเงินเข้าบัญชี(Wire Transfer) เพื่อไม่ให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องได้
ทางดีเอฟเอส ระบุว่ารวมแล้วธนาคารแห่งนี้ดำเนินธุรกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายมาตรการคว่ำบาตรเกือบ 28,000 ครั้งและคิดเป็นเงินกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหหรัฐฯ "เราได้ลงมือและจะเดินหน้าใช้ไม้แข็งเพื่อถอนรากถอนโคนการกระทำผิดของธนาคารต่างๆที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ" เบนจามิน ลอว์สกี ผู้อำนวยการดีเอฟเอสระบุในถ้อยแถลง
"เมื่อว่าเมื่อไหร่และที่ไหนที่เราสืบพบการกระทำผิดร้ายแรง เราจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องประเทศของเราจากการฟอกเงิน ก่อการร้ายและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ" ถ้อยแถลงของดีเอฟเอสระบุ พร้อมเผยว่าทางธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ยินยอมจ่ายค่าปรับและให้คำมั่นจะดำเนินงานและควบคุมอย่างเคร่งครัดยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันเหตุละเมิดใดๆในอนาคต
เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ของอังกฤษ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางและนิวยอร์ก ปรับเงินกว่า 667 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ฐานเปิดทางให้มีการฟอกเงินหลายแสนล้านดอลลาร์โดยเหล่าลูกค้าจากอิหร่าน เมียร์มาร์ ลิเบียและซูดาน ผ่านสาขาธนาคาร อันละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ