เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- ภาวะการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯอาจปรับตัวลดลงเหลือ 642,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ จากที่เคยมีการขาดดุลถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2012 หลังรัฐบาลกลางสหรัฐฯสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มสูงขึ้นและการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์อเมริกันจากวิกฤตเมื่อปี 2008 ทั้งนี้ เป็นข้อมูลของสำนักงบประมาณรัฐสภา (CBO) ที่มีการเปิดเผยในวันอังคาร (14)
รายงานของซีบีโอระบุ ตัวเลขการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงเหลือ 642,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 19 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ ต่ำกว่าการคาดการณ์ของซีบีโอเมื่อเดือนกุมภาพันธ์มากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นภาวะการขาดดุลที่ต่ำที่สุดของสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าเป้าและการที่แฟนนี เม และเฟรดดี แม็ค สองสถาบันการเงินที่เป็นผู้รับจำนองอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ มีผลประกอบการดีขึ้นจนสามารถจ่ายเงินคืนกระทรวงการคลังสหรัฐฯได้เพิ่มสูงขึ้น หลังประสบปัญหาอย่างรุนแรงจนเกือบล้มละลายและต้องเข้ามาอยู่ใต้การควบคุมของรัฐบาลเมื่อปี 2008
การคาดการณ์ของซีบีโอระบุว่า การขาดดุลของสหรัฐฯจะลดลงเหลือเพียง 4 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปีนี้ เมื่อเทียบกับยอดการขาดดุลที่ 7 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ซีบีโอยังคงเน้นย้ำว่า มีความจำเป็นที่ต้องมีการพิจารณาขยายเพดานหนี้ของประเทศออกไปภายในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้ แม้จนถึงขณะนี้บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสส์พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างยังคงประลองกำลังกัน และมีความเห็นที่แตกต่างในการหาข้อสรุปเรื่องการขาดดุลงบประมาณของประเทศ รวมถึงแผนตัดลดหนี้สินของชาติในระยะยาว
