เอเอฟพี - มากาติ (Makati) ซึ่งเป็นศูนย์รวมธุรกิจในเขตเมโทรมะนิลาของฟิลิปปินส์ เริ่มแบนการใช้ถุงพลาสติกและภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากสไตโรโฟมวันนี้(20)เป็นวันแรก เพื่อลดปริมาณขยะซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กรุงมะนิลาต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม
หลังจากประกาศและรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้ถุงพลาสติกมาระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อมในมากาติจะเริ่มสั่งปรับร้านค้าและซุปเปอร์มาเก็ตทุกแห่งที่ยังคงใช้ภาชนะต้องห้ามดังกล่าว เป็นเงิน 5,000 เปโซ (ราว 3,500 บาท)
แดนนี วิลลัส เจ้าหน้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า “เท่าที่ตรวจสอบก็ยังพบผู้ค้ากระทำผิดหลายราย และได้สั่งปรับไปแล้ว”
มากาติ ซึ่งเป็น 1 ใน 17 เมืองย่อยในเขตเมโทรมะนิลา ยังอนุญาตให้ผู้ค้าใช้พลาสติกห่อหุ้มอาหารได้ แต่ห้ามการใช้ถุงพลาสติกหิ้ว ซึ่งโดยปกติร้านค้าหรือภัตตาคารจะแจกฟรีให้ลูกค้าอยู่แล้ว
ภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากสไตโรโฟมและแก้วพลาสติกก็อยู่ในข่ายห้ามใช้เช่นกัน โดยผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ถุงกระดาษแทน หรือยอมไม่ใช้ถุงไปเลย ขณะที่ซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่งก็เชิญชวนให้ลูกค้าพกถุงมาเองจากบ้าน
เซเนลิต คามาร์เซ หัวหน้าทีมดูแลสิ่งแวดล้อมซึ่งเข้าไปสำรวจตลาดแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า คนส่วนใหญ่ยังรับไม่ได้กับนโยบายแบนถุงพลาสติก โดยเฉพาะผู้ที่ฐานะยากจน
“คนส่วนมากโดยเฉพาะพวกแม่ค้าหาบเร่ยังคงใช้ถุงพลาสติกกันอยู่ แต่ที่จะร้องเรียนมากที่สุดก็คือลูกค้าที่ซื้อปลาซื้อไก่ พวกเขาจะโกรธถ้าเราเข้าไปทัก” เธอกล่าว
มากาติ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมสถานทูตต่างประเทศ, บริษัทห้างร้าน, ธนาคาร, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำแล้ว ยังมีภัตตาคารอยู่มากมายถึง 2,900 แห่ง และแม้ที่นี่จะมีพลเมืองเพียง 600,000 คนตามสำมะโนประชากร แต่ในช่วงกลางวันที่ผู้คนจากรอบนอกหลั่งไหลเข้าไปทำงาน จำนวนประชากรก็อาจหนาแน่นถึง 3.7 ล้านคนทีเดียว
มากาติ เป็นเมืองที่ 9 จากทั้งหมด 16 เมืองและ1 เทศบาลในเขตเมโทรมะนิลาที่ประกาศกฎหมายห้ามใช้ถุงพลาสติก ทำให้ขณะนี้มีประชากรเมโทรมะนิลาอยู่ใต้ข้อบังคับดังกล่าวแล้ว 6.7 ล้านคน จากทั้งหมด 13 ล้านคน
เพรซี มากานา เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการของสำนักงานบริการสิ่งแวดล้อมมากาติ ระบุว่า การใช้ถุงพลาสติกให้น้อยลงเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดขยะตามแม่น้ำลำคลอง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กรุงมะนิลาต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมอยู่เสมอ
“จากที่เราได้เก็บกวาดสิ่งสกปรกในแม่น้ำทุกๆ 15 วัน พบว่าขยะส่วนใหญ่ก็คือถุงพลาสติก” เธอกล่าว
ฤดูฝนในฟิลิปปินส์จะเริ่มราวๆเดือนมิถุนายนของทุกปี และมักมาพร้อมกับปัญหาน้ำท่วมเมืองหลวง
อิทธิพลของไต้ฝุ่นกิสนา (กฤษณา) เมื่อปี 2009 ทำให้พื้นที่ 80% ของกรุงมะนิลาจมอยู่ใต้น้ำ และคร่าชีวิตพลเมืองไปราวๆ 400 คน ซึ่งถือเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
ปีที่แล้ว ชาวมะนิลาก็เผชิญฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 1 สัปดาห์ในช่วงเดือนสิงหาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตราวๆ 100 คน