“ตุรกี” หันมาประท้วงรัฐบาลด้วยวิธี “ยืนนิ่ง”

รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ชายที่ประท้วงด้วยวิธีการยืนนิ่งเป็นหุ่นอย่างเดียวดาย ได้จุดประกายให้ผู้ประท้วงคนอื่นๆ จำนวนมากพากันทำตามเมื่อวันอังคาร (18) ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกกวาดจับกุมประชาชนอีกหลายสิบคนทั่วทั้งตุรกีในเหตุประท้วงนายกรัฐมนตรี ตอยยิบ เออร์โดแกน อย่างรุนแรงในช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา

ที่กรุงอังการา ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (18) ตำรวจปราบจลาจลได้ใช้แก๊สน้ำตาและเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่มารวมตัวที่ย่านกีซีเล ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ

ในขณะที่ล่าสุดมีเหตุปะทะอย่างรุนแรงในหลายๆ เมือง แต่การประท้วงที่เมืองอิสตันบูลกลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนเอาแต่ยืนนิ่งกันลูกเดียว ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากชายผู้หนึ่งซึ่งขณะนี้กำลังเป็นกระแสฮือฮาในสื่อสังคมออนไลน์ จากการที่เขาประท้วงด้วยการยืนนิ่งเป็นเวลา 8 ชั่วโมงที่จัตุรัสทักซิมเมื่อวันจันทร์ (17)

“ผมเป็นแค่ประชาชนธรรมดาๆ คนหนึ่งในประเทศนี้เท่านั้นเอง” เออร์เดม กุนดุซ หรือที่ได้รับฉายาว่า “Standing Man” ในทวิตเตอร์ให้สัมภาษณ์กับ เฮอร์รีเยททีวี อีกทั้งกล่าวเสริมว่า “อยากให้มีคนรับฟังพวกเราบ้าง”

ตอนพลบค่ำของวันอังคาร (18) ประชาชนหลายร้อยคนพากันทำตามเออร์เดม ด้วยการยืนนิ่งเงียบ โดยที่หันหน้าไปยังรูปภาพขนาดยักษ์ของมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโลกตุรกีสมัยใหม่ หรือไม่ก็หันไปทางกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าดูกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ใกล้ๆ

มูอัมเมอร์ กูเลอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของตุรกี ระบุว่า จากเหตุประท้วงที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมในนครอิสตันบูล 62 คน และในกรุงอังการาอีก 23 คน ในขณะที่สถานีโทรทัศน์สาธารณะทีอาร์ทีรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมในเมืองเอสกีเชฮีร์อีก 13 คน

การประท้วงได้นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นภาพที่ทำลายชื่อเสียงของตุรกีในฐานะดินแดนแห่งเสถียรภาพ กลายเป็นชาติตะวันออกกลางหัวรุนแรงไปเสียแล้ว

กลุ่มประเทศตะวันตกแสดงความไม่สบายใจในวิธีการที่ตำรวจใช้รับมือกับการประท้วงเออร์โดแกน นายกฯ ผู้ซึ่งชนะการเลือกตั้งถึงสามสมัยซ้อน โดยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้เขาได้รับคะแนนเสียงจากประชาชน 50 เปอร์เซ็นต์

นักวิจารณ์กล่าวหาว่านายกฯ มองข้ามประชาชนอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้เขา และยังมีนักวิจารณ์บางคนกล่าวว่านายกฯ กำลังวางแผนโค่นล้มระบบการปกครองแบบสมัยใหม่ แล้วหันมาสร้างกฎระเบียบแบบเคร่งศาสนาแทน ซึ่งเออร์โดแกนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้