เอเจนซีส์ - ในปัจจุบันนี้คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านต้องปวดหัวเนื่องมาจากสัญญาณไวไฟที่ช้า หรือบางทีไม่วิ่งเลย ทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในหัวใจ บางทีคุณอาจจะได้รับสัญญาณไว-ไฟได้เต็มขีดที่ห้องนอน แต่พอคุณก้าวพ้นห้องนอนไปที่ห้องครัวเท่านั้น สัญญาณไว-ไฟบนไอแพดของคุณกลับเหลือ 2 ขีดซะงั้น เรามี 6 วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มระยะทางและสัญญาณไว-ไฟให้กับบ้านของคุณ
เปลี่ยนเสาอากาศของเราเตอร์
เพราะเสาอากาศที่ติดมานั้นถูกออกแบบให้ส่งสัญญาณได้รอบทิศทาง ซึ่งบ่อยครั้งที่สัญญาณจะไปชนกับผนังหรือตู้ ดังนั้น การเปลี่ยนเสาอากาศใหม่ที่สามารถเน้นไปในทิศทางที่คุณต้องการมากที่สุด หรือที่เรียกว่าเสาอากาศแบบ high-gain ซึ่งทั้งบริษัท D-Link Linksys และ Hawking ต่างมีเสาอากาศแบบนี้จำหน่าย
เพิ่มไว-ไฟ รีพีตเตอร์
ตัวไว-ไฟรีพีตเตอร์นี้จะเพิ่มระยะส่งสัญญาณไวไฟให้ไกลขึ้น คุณสามารถติดตั้งตัวนี้โดยไม่ต้องเดินสายเพิ่ม เพียงแค่ติดตั้งไว-ไฟรีพีตเตอร์ในจุดที่อยู่ระหว่างเราท์เตอร์และจุดที่คุณต้องการเพิ่มสัญญาณ โดยหลังจากติดตั้งไว-ไฟรีพีตเตอร์ คุณควรจะเห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในทันที
กำจัดสิ่งที่รบกวนสัญญาณไว-ไฟออกไป
สิ่งที่หนักและหนา เช่น กำแพงที่หนา ตู้ที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบ และอื่นๆ ล้วนแต่เป็นอุปสรรคได้ พยายามที่จะย้ายเราเตอร์ของคุณให้ห่างจากสิ่งเหล่านี้ หรือตั้งมันให้อยู่ในที่สูงขึ้น เพื่อให้มันกระจายสัญญาณได้ดีขึ้น ในทางเดียวกัน ตัวส่งสัญญาณอื่นๆ เช่น โทรศัพท์บ้านแบบไร้สาย เครื่องมอนิเตอร์เด็กทารก และรีโมตเปิดประตูโรงรถสามารถส่งคลื่นรบกวนสัญญาณไว-ไฟของเราเตอร์ได้ ดังนั้นพยายามที่จะไม่ให้สิ่งพวกนี้อยู่ใกล้ๆ กับเราเตอร์ของคุณ
อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์
โดยปกติแล้วบริษัทผู้ผลิตมักจะให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ของผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เข้าเว็บไซต์บริษัทเราเตอร์เพื่อทำการอัปเดต และถ้าคุณใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์ ให้แน่ใจว่าคุณได้อัปเดตซอฟต์แวร์ของเน็ตเวิร์กล่าสุดสหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์
เปลี่ยน USB wifi adapter ของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ถ้าหากคุณมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรุ่นเก่าที่ไม่สามรถรับสัญญาณไว-ไฟในตัว ให้พิจารณาเปลี่ยนมาใช้ USB wifi adapter แทนที่จะเป็นแบบการ์ด มันจะเพิ่มศักยภาพการรับสัญญาณของตัวโน้ตบุ๊กอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้มั่นใจว่าระบบไว-ไฟในบ้านคุณนั้นไม่มีเพื่อนบ้านแอบมาร่วมแจม
นี่อาจจะไม่เกี่ยวกับเพิ่มประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก แต่มันทำให้คุณนอนหลับได้ ทำให้มั่นใจว่ามีแต่คุณและคนในครอบครัวเท่านั้นที่สามารถใช้ระบบไว-ไฟของบ้านคุณได้เท่านั้น ระบบรักษาความปลอดภัยทางเน็ตเวิร์กโดยพื้นฐานแล้วมี 2 วิธี คือ WPA (wifi protected access) และ WEP (Wired Equivalent Privacy) ซึ่งทั้ง 2 วิธีต้องการพาสเวิร์ดเพื่อใช้แสดงตัวในการผ่านเข้าระบบเพื่อใช้งาน แต่ถ้าคุณไม่มีทั้งคู่ควรปรึกษากับผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตของคุณ