เอเอฟพี - อุทกภัยทางตอนเหนือของอินเดียคร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้วอย่างน้อย 120 ราย วันนี้(19) ขณะที่ทหารเร่งนำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนอีกหลายพันคนที่คงยังไร้ที่อยู่ เนื่องจากบ้านเรือนถูกซัดหายไปกับกระแสน้ำ
รัฐอุตตราขัณฑ์และหิมาจัลประเทศมีฝนตกหนักกว่าปกติถึง 3 เท่าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากฤดูมรสุมมาถึงเร็วกว่าที่คาดหมายราวครึ่งเดือน
กระแสน้ำเชี่ยวกรากได้พัดพาเอาบ้านเรือนประชาชนไปหลายพันหลัง ขณะที่ทางการอินเดียต้องส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปอพยพคน และนำอาหารไปมอบแก่ชาวบ้านที่ยังติดอยู่ในพื้นที่ประสบภัย
จาสปาล อารยา รัฐมนตรีกระทรวงบรรเทาภัยพิบัติประจำรัฐอุตตราขัณฑ์ แถลงว่า “เราพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 110 ราย ขณะนี้รัฐบาลท้องถิ่นและกองทัพกำลังเร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหลายพันคนที่ติดอยู่ตามวัดฮินดู และหุบเขาซึ่งถูกน้ำท่วม”
อารยา ระบุว่า วัดฮินดูแห่งหนึ่งถูกกระแสน้ำพัดพังไปบางส่วนเมื่อวานนี้(18) ทำให้ผู้แสวงบุญราว 10,000 คนต้องไร้ที่พักพิง
“วัดเกดารนาถ (Kedarnath) จมอยู่ใต้น้ำโคลน เราได้แต่หวังว่าตัววัดจะไม่พังถล่มลงมา”
ทางการอินเดียประกาศให้ผู้แสวงบุญงดเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ชั่วคราว เพราะฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดดินถล่มเพิ่มเติมในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งมีศาสนสถานฮินดูอยู่เป็นจำนวนมากจนได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งพระเจ้า”
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า รถยนต์ราว 200 คัน, รถตักดิน 2 คัน และเฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่อีก 1 ลำ ถูกน้ำซัดลอยไป ขณะที่ สุภัช กุมาร มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ แจ้งว่ามีสะพานพังถล่มถึง 21 แห่ง
กองทัพอากาศอินเดียได้นำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ประสบภัยได้แล้ว 250 คน ก่อนจะส่งพวกเขาไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
ในส่วนของรัฐหิมาจัลประเทศซึ่งอยู่ติดกัน กระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและหน่วยงานราชการกว่า 500 แห่ง และยังพบผู้เสียชีวิตจากดินถล่มอีกอย่างน้อย 10 คน