เอเอฟพี /เอเจนซีส์- เป็นเพราะอากาศเลวร้าย ทำให้ปฎิบัติการช่วยเหลือในวันอาทิตย์(23)นี้ทางตอนเหนือของอินเดียและมีพรมแดนติดเนปาล คาดมีคนนับพันเสียชีวิตจากดินถล่มและทำให้ผู้แสวงบุญชาวฮินดูและนักท่องเที่ยวไม่มีทั้งอาหารและน้ำประทังชีวิต จากน้ำท่วมที่เริ่มมาตั้งแต่ วันที่ 15 เดือนนี้
ถึงแม้ว่าฝนที่ตกอย่างหนักจะทิ้งช่วงไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเฉพาะผู้แสวงบุญฮินดูที่อยู่ห่างไกลที่อยู่ในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทั้งสะพานที่หักพังและถนนที่ถูกดินถล่มตลอดจนถึงขาดเครื่องมือการกู้ภัยเป็นผลให้ไม่สามรถช่วยเหลือได้ทันท่วงที คาดอย่างน้อยมีผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้วราว 739 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นแค่ตัวเลขเริ่มต้น
“คาดว่าตัวเลขน่าจะทะลุหลักพัน แต่ตัวเลขที่ชัดเจนจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์สงบแล้ว” มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ วิเจย์ บาฮูกานา กล่าว ผ่านการแถลงข่าวทางโทรทัศน์
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐอุตตราขัณฑ์เผยในวันอาทิตย์(23)ว่าความพยายามในการค้นหาและช่วยเหลือนั้น มีความลำบากมากขึ้น เพราะคาดกันว่าอาจจะมีฝนตกลงมาอีกในไม่กี่วันข้างหน้า “เราพยายามที่จะอพยพพวกเขาไปพร้อมกับการปลอบขวัญ แต่ฝนที่ตกอย่างไม่ต่อเนื่องทำให้การช่วยเหลือต้องหยุดไปในเขตที่สูง
“ทั้งเฮลิคอปเตอร์ นักบิน และอาหาร พร้อมแต่เราไม่สามารถไปได้เป็นเพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย” หนึ่งในนักบินได้บอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมเสริมว่า อาจจะมีโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยราว 2-3 ชั่วโมงแต่ทางเราจะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด”
เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้ว 82,000 ราย แต่อีกราวมีผู้ประสบภัยมากกว่า 22,000 รายถูกตัดขาดในที่ห่างไกล ทางการอินเดียกล่าว
รัฐมนตรีการเกษตรของรัฐอุตตราขัณฑ์ ฮารัค ซิงห์ ราวัต แสดงความเห็นเกี่ยวกับน้ำท่วมครั้งประวัติการนี้ว่า “เป็นหายนะในรอบพันปี”
