รอยเตอร์ - ฝนที่ตกลงมาบวกกับกระแสลมที่อ่อนกำลังลง ช่วยสกัดการลุกลามของไฟป่าที่ได้ชื่อว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมลรัฐโคโลราโด ขณะที่หน่วยดับเพลิงสามารถควบคุมไฟซึ่งเผาไหม้บ้านเรือนไปเกือบ 420 หลังในเมืองโคโลราโดสปริงส์ได้มากขึ้น วานนี้(14)
ไฟป่าซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา(11) เผาผลาญพื้นที่ป่าไปราว 24 ตารางไมล์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโคโลราโดสปริงส์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และพลเมืองอีกราว 38,000 คนต้องทิ้งบ้านเรือน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 800 นาย รวมถึงเครื่องบินบรรทุกสารเคมีและเฮลิคอปเตอร์ส่งน้ำ สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ราว 30% แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 5% เมื่อวันพฤหัสบดี (13) ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงคาดว่า อาจต้องใช้เวลาอีกเกือบ 1 สัปดาห์จึงจะสามารถดับไฟป่าลงได้ทั้งหมด
สถานการณ์ไฟป่าในรัฐโคโลราโดเริ่มดีขึ้น หลังกลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าไปในพื้นที่ทำให้อากาศเย็นลง และกระแสสมที่พัดรุนแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมาก็ยังอ่อนกำลังลงด้วย
จอห์น ฮิกเกนลูเปอร์ ผู้ว่าการรัฐโคโลราโด เผยหลังจากตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยวานนี้(14)ว่า รู้สึกตกตะลึงที่เห็นการทำลายล้างแบบ “สุ่มเลือก” เช่นนี้
“บางพื้นที่เหลือต้นไม้อยู่เพียง 2-3 ต้น ส่วนบ้านเรือนถูกเผาวอดหมด ในขณะที่บางแห่งต้นไม่ถูกไฟเผาไม่เหลือ แต่บ้านเรือนประชาชนกลับไม่เป็นอะไร” เขากล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกคำสั่งอพยพทางตอนเหนือสุดของเมืองโคโลราโดสปริงส์ ซึ่งมีบ้านเรือนราว 1,000 หลัง รวมถึงชุมชนใกล้เคียงซึ่งประชาชน 4,000-5,000 คนได้รับคำสั่งอพยพไปแล้วก่อนหน้านี้