รอยเตอร์ - สหรัฐฯ อาจพิจารณาประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าซีเรีย หลังพบหลักฐานว่ารัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้แก๊สซารินซึ่งเป็นสารพิษทำลายระบบประสาทมาปราบปรามฝ่ายต่อต้าน ซึ่งเป็นการ “ข้ามเส้นแดง”ที่ทำให้วอชิงตันต้องกลับมาทบทวนอย่างจริงจังว่า จะเข้าแทรกแซงวิกฤตการณ์การเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปีหรือไม่
หลังจากทำตัวเป็น “คนนอก” อยู่นานหลายเดือน ล่าสุดประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (13) ว่าจะติดอาวุธให้ฝ่ายกบฏ หลังพบหลักฐานชี้ชัดว่าทหารซีเรียใช้อาวุธเคมีทำลายกองกำลังกบฏที่หวังโค่นระบอบอัสซาด
นักการทูตอาวุโสจากยุโรป 2 คน เปิดเผยว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาประกาศเขตห้ามบินบริเวณพรมแดนตอนใต้ของซีเรีย ส่วนที่ติดกับจอร์แดน
“วอชิงตันกำลังพิจารณาว่าจะใช้เขตห้ามบินเพื่อช่วยเหลือฝ่ายศัตรูของอัสซาด” นักการทูตผู้หนึ่งเผย
การประกาศห้ามบินนั้นหมายความว่า สหรัฐฯ จะต้องทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ซับซ้อนของซีเรียซึ่งพัฒนาโดยมอสโก และทำให้วอชิงตันต้องยอมเข้าสู่สงครามอีกครั้งในลักษณะเดียวกับที่ นาโต เคยช่วยโค่นรัฐบาลพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เมื่อ 2 ปีก่อน
“แน่นอนว่า เราไม่ปฏิเสธทางเลือกใดๆทั้งสิ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไรลงไป” ซูซาน ไรซ์ ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งกำลังจะได้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้กับ โอบามา กล่าว
ด้าน เบน โรดส์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี(13)ว่า “การใช้เขตห้ามบิน... จะทำให้สหรัฐฯ และประชาคมโลกต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่ที่อาจบานปลายไม่รู้จบ มาตรการเช่นนั้นจะมีความซับซ้อนในกรณีของซีเรียมากกว่าลิเบีย”
แผนใช้เขตห้ามบินยังเสี่ยงที่จะถูกรัสเซียซึ่งเป็นมิตรกับ อัสซาด ใช้สิทธิ์วีโตในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะจนถึงขณะนี้เครมลินก็ยังไม่ยอมรับหลักฐานที่สหรัฐฯ อ้างว่ารัฐบาลซีเรียใช้แก๊สพิษซาริน
“ผมขอกล่าวตรงๆว่า สิ่งที่วอชิงตันนำมาเปิดเผยให้เราดูนั้นไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย” ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุ
ไรซ์ ได้ยื่นจดหมายชี้แจงถึงเลขาธิการสหประชาชาติ โดยระบุว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีฝ่ายต่อต้านถึง 4 ครั้ง ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแก๊สซารินถูกใช้ 2 ครั้งใกล้กับเมืองอะเลปโปเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายน ส่วนที่เหลือเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่ยังระบุชนิดไม่ได้
ผู้บัญชาการกองกำลังหลักของฝ่ายกบฎเรียกร้องให้พันธมิตรตะวันตกจัดส่งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและรถถังไปให้ และให้ประกาศเขตห้ามบินด้วย โดยชี้ว่าหากพวกเขาได้รับอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพพอก็จะสามารถโค่น อัสซาด ได้ภายใน 6 เดือน
ด้านฝรั่งเศสเตือนว่า การประกาศเขตห้ามบินจะต้องมีมติรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ดูจะเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ได้ส่งขีปนาวุธแพทริออตชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศ, เครื่องบินรบ และทหารกว่า 4,000 นายเข้าไปในจอร์แดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อร่วมปฏิบัติการซ้อมรบประจำปี และก็เผยชัดเจนว่าอาจทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์ส่วนหนึ่งไว้ในจอร์แดนต่อหลังการซ้อมรบเสร็จสิ้นลง