เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ซบเซา การขาดดุลการค้าและภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงแห่งบราซิลลดฮวบ ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้นำหญิงแดนแซมบ้าที่ต้องลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ในอีก 1 ปีข้างหน้า
มาร์การิดา กูเตียร์เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค แห่งเฟเดอรัล ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ริโอ เด จาไนไรระบุว่า ประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ตระหนักดีว่าคะแนนนิยมในตัวเธอกำลังดิ่งลงแบบฉุดไม่อยู่ และชาวบราซิลก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชนชาติที่มีความหวาดกลัวต่อภาวะเงินเฟ้อเป็นอันดับต้นๆของโลก ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว อัตราเงินเฟ้อรอบ 12 เดือนของบราซิลได้พุ่งสูงแตะระดับ 6.5 เปอร์เซ็นต์ แม้ทางธนาคารกลางแดนแซมบ้าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ซึ่งสูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อแล้วก็ตาม
นอกจากปัญหาเงินเฟ้อแล้ว การที่เศรษฐกิจของบราซิลซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกยังมีการเติบโตที่น่าผิดหวังเพียง 0.6 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจบราซิล ในปี 2011 และ 2012 ก็มีการเติบโตตลอดทั้งปีเพียง 2.7 เปอร์เซ็นต์ และ 0.9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น บราซิลยังมียอดขาดดุลการค้าสูงถึง 5,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 166,754 ล้านบาท) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้จนสถาบันจัดอันดับชื่อดังอย่างสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ “เอส แอนด์ พี”ต้องประกาศปรับเครดิตเรตติ้งของเศรษฐกิจบราซิลเป็นเชิงลบ จนกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในวงกว้าง
ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่คะแนนนิยมที่ลดฮวบอย่างน่าใจหายของนางรูสเซฟฟ์ โดยผลสำรวจของสำนักวิจัย “ดาตาโฟลญา”พบคะแนนนิยมของประธานาธิบดีวัย 65 ปีในเดือนมิถุนายนได้ลดลงเหลือเพียง 57 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยมีคะแนนนิยมในระดับ 65 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนมีนาคม
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันวิจัย “เอ็มดีเอ” ระบุ คะแนนนิยมของนางรูสเซฟฟ์ ซึ่งขึ้นครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 36 ในประวัติศาสตร์แดนแซมบ้าตั้งแต่เมื่อต้นปี 2011 ได้ร่วงลงเหลือเพียง54.2 เปอร์เซ็นต์ในเวลานี้ จากระดับ 56.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน
การดิ่งลงของคะแนนนิยมของนางรูสเซฟฟ์ ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับทั้งตัวเธอ และพรรคแรงงานบราซิล (Partido dos Trabalhadores) พรรคการเมืองสายกลาง-ซ้ายของเธอ เนื่องจากการเลือกตั้งระดับชาติครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปีหน้า รวมถึงการเลือกตั้งผู้นำแดนแซมบ้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม 2014